ดุสิตโพลเผยคนมองไทย-กัมพูชาขัดแย้งบานปลายหลังตั้ง"ทักษิณ"นั่งที่ปรึกษา

ข่าวทั่วไป Friday November 6, 2009 16:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อกรณีที่กัมพูชาแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 31.63% เห็นว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบด้านความสัมพันธ์และสร้างความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา รองลงมา 22.48% มองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ระหว่างสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่ 19.38% แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นบุคคลที่มีความสามารถและมีศักยภาพ สมเด็จฮุนเซนเชื่อมั่นในการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ถึง 69.20% ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ควรตอบรับเป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจในครั้งนี้ เพราะจะทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีสถานะเป็นผู้หลบหนีคดีอาญาอยู่ รองลงมา 19.09% เห็นว่าควรตอบรับ เพราะเป็นการแสดงความสามารถและศักยภาพให้ผู้อื่นได้เห็น ไม่น่าจะเสียหาย อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนมากกว่า และมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวแทนประเทศไทยที่จะเข้าไปพัฒนากัมพูชาให้ดีขึ้น

การตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาดังกล่าวนั้นประชาชนส่วนใหญ่ราว 83% เชื่อว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะก่อให้เกิดความขัดแย้งและความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่ลดลง ทำให้ฮุนเซนได้ใจ ฮึกเหิม และเป็นการไม่ให้เกียรติรัฐบาลไทย ขณะที่อีกด้านราว 17% ระบุว่าไม่ส่งผลกระทบ เพราะอาจเป็นกระแสข่าวที่สร้างขึ้นเป็นที่สนใจ และมองว่าเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งทางการเมืองที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินไว้เท่านั้น

ส่วนความเห็นของประชาชนต่อกรณีที่รัฐบาลไทยเรียกทูตไทยประจำกัมพูชากลับมา พบว่า อันดับแรก เป็นการแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจ เป็นการตอบโต้ทางการเมืองและการทูต รองลงมา เป็นการเรียกทูตกลับมาเพื่อปรึกษาหารือ และกำหนดท่าทีของรัฐบาลให้ชัดเจน และอันดับสาม เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าจะเกิดความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามากขึ้น

ทั้งนี้หากประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการใน 3 อันดับแรกมากสุด คือ อันดับ 1 ทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งด้านความร่วมมือและพันธกรณีต่างๆ อันดับ 2 เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมปรึกษาหารือ เพื่อวางแผนรองรับกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้า และอันดับ 3 ให้นายอภิสิทธิ์ ไปเจรจากับสมเด็จฮุนเซนโดยตรง

ผลสำรวจดังกล่าว มาจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ 1,014 คน ระหว่างวันที่ 5-6 พ.ย.52



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ