องค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่มีอาการหอบหืด เบาหวาน หรือมีอาการป่วยอื่นๆ อาจจะมีอาการป่วยมากขึ้น พร้อมกับแนะนำให้ผู้ติดเชื้อที่มีโรคประจำตัวรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพื่อรับการรักษาทันท่วงที โดยอารปอดบวมหรืออาการป่วยบางประการจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่อาจจะแสดงอาการขึ้นภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ดังนั้น ผู้ป่วยที่หายใจลำบาก ขาดน้ำ หรือมีไข้มากกว่า 3 วัน ควรพบแพทย์ในทันที
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหนักนั้นควรจะได้รับยาทามิฟลูในทันที หรืออาจจะรับยาถึง 2 เท่า แม้ว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการป่วยในระดับเล็กน้อยไปจนถึงปานกลาง แต่ไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่สามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักถึงขั้นชีวิตได้ โดยเฉพาะอาการปอดบวมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่วัยกลางคน
บลูมเบิร์กรายงานว่า นับตั้งแต่ที่ไวรัสหวัดใหญ่ 2009 ระบาดที่เม็กซิโกเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้แล้วกว่า 6,000 คน และไวรัสยังกระจายไปยังประเทศต่างๆถึง 195 ประเทศ โดย WHO ได้ออกคู่มือในการรับมือกับไข้หวัดใหญ่ 2009 ออกมา ในขณะที่ประเทศตะวันตกเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากขึ้น
WHO ชี้ว่า เนื่องจากประชาชนไม่มีภูมิคุ้มกันไวรัสหวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ส่งผลให้มีผู้ป่วยเพราะไข้หวัดใหญ่ 2009 มากกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล นอกจากนี้ ไวรัสยังอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเกี่ยวกับปอด และระบบหายใจล้มเหลว