- นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เพื่อรับฟังผลการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กลับมานัดชุมนุมเพื่อจัดงานวันรัฐธรรมนูญอีกในวันที่ 10 ธ.ค.นี้
- ติดตามความเคลื่อนไหวของภาครัฐ หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเกี่ยวกับโครงการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดออกมาแล้วเมื่อวานนี้ โดยช่วงบ่ายนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก(อีสเทิร์นซีบอร์ด)
- ขณะที่ช่วงเย็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากกรณีมาบตาพุด เนื่องจากยังมีอีก 65 โครงการที่ถูกแช่แข็งต่อไป ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประเมินว่า การลงทุนที่สะดุดจะฉุดให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ปี 53 ลดลง 0.2% และบีโอไอคาดว่าจะเกิดความเสียหายราว 3 แสนล้านบาท
- ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยาน 3 คน ในคดีที่อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอสั่งให้ยึดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งครอบครัวผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์ รวม 22 รายการ มูลค่ากว่า 7.6 หมื่นล้านบาทให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งอดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ที่จะขึ้นเบิกความ คือ นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคตส., นายกล้านรงค์ จันทิก และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา กรรมการ คตส.
- นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมพิธีลงนามหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยความร่วมมือทางการเงินระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่น ในสัญญาเงินกู้ และสัญญาค้ำประกันเงินกู้ สำหรับโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--