สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เผยคุณภาพชีวิตของคนไทยในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยดูจากตัวเลขการจ้างงานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.4% การบรรจุเข้าทำงานเพิ่มถึง 72% แต่หนี้สินภาคครัวเรือนยังน่าห่วงเนื่องจากมีมูลค่าหนี้ 215,684 บาท/ครัวเรือน
"การจ้างงานเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 1.45 ผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานลดลง อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ 1.2% การบรรจุกลับเข้าทำงานมีมากขึ้นประมาณ 72% สะท้อนว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนมีแนวโน้มดีขึ้น" นางสุวรรณี คำมั่น รองเลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวถึงภาวะสังคมในช่วงไตรมาส 3(ก.ค.-ก.ย.) ปี 52
ขณะที่หนี้สินภาคครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีครัวเรือน 61.8% มีภาระหนี้สิน ซึ่งมีมูลค่าหนี้เฉลี่ยตัวครัวเรือน 215,684 บาท เพิ่มขึ้น 8.5% และประเด็นที่ต้องระวังคือหนี้นอกระบบ โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่และภาวะการเงินตึงตัวมากขึ้น ทำให้ประชาชนบางกลุ่มหันไปพึ่งเงินด่วนและแหล่งเงินกู้นอกระบบ
"พบรูปแบบการกู้เงินใหม่โดยเฉพาะวัยรุ่นใช้มือถือหรือรายได้จากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เป็นหลักประกันในการกู้ ส่วนใหญ่นำไปใช้ซื้อของฟุ่มเฟือย เที่ยวกลางคืน และใช้หนี้พนันบอล"นางสุวรรณี กล่าว
จากการติดตามสถานการณ์หนี้นอกระบบของรัฐบาล พบว่า ควรมีการขยายโอกาสเพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพราะบางครั้งไม่เกิดประสิทธิผลเท่าที่ควรหรือก่อให้เกิดผลลบ ถ้าไม่สามารถกำกับหรือติดตามผลการใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์ หรือแม้จะโอนหนี้เข้าสู่ระบบแต่จะกลับไปกู้นอกระบบได้อีก
รองเลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า แนวโน้มใหม่ด้านการประกอบอาชีพมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างคือ ประกอบอาชีพอิสระมากขึ้น ทั้งภาคการค้าและบริการ เป็นรูปแบบการทำงานกับเทคโนโลยี ยืดหยุ่นและอิสระในการทำงาน ซึ่งจะมีผลกระทบด้านความมั่นคงของการงานและประกันสังคมไม่ครอบคลุม
ส่วนปัญหาสุขภาพต้องเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหญ่ 2009 และโรคติดต่ออุบัติใหม่ ส่วนการสูบบุหรี่และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีทิศทางลดลง แต่มีการใช้บุหรี่มวนเองมากขึ้นจาก 5 ล้านคนในปี 50 เป็น 6.5 ล้านคนในปี 52