เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานประชุมแนวทางดำเนินงานให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เอช 1 เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้ผู้รับผิดชอบงานให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วประเทศ กล่าวว่า จะเริ่มให้บริการวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ในวันที่ 11 มกราคม-มีนาคม 2553 สำหรับบุคคล 5 กลุ่มเสี่ยงป้าหมายคือหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์มากกว่า 3 เดือน ผู้เป็นโรคอ้วนน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม ผู้พิการ บุคคลอายุ 6 เดือน-64 ปี ที่มีโรคประจำตัว 10 โรค และบุคลากรสาธารณสุข รวม 2.8 ล้านคน
โดยสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัท ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ จำกัด 2 ล้านโดสที่จะมาถึงปลายเดือนธันวาคม และจะเสนอขอคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งซื้อเพิ่มอีก 8 แสนโดส เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า กลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนคือ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ซึ่งเข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่เหลือเข้ารับการวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลรัฐ โดยค่าใช้จ่ายให้คิดค่าบริการตามสิทธิการรักษาพยาบาลของแต่ละบุคคล ยกเว้นค่าวัคซีนซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนโรงพยาบาลเอกชนอาจต้องเสียการบริการทางการแพทย์ และการฉีดวัคซีนทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องดูแลผู้ป่วยหลังได้รับวัคซีนอีก 30 นาที เพื่อสังเกตว่ามีอาการแพ้หรือไม่
"บุคลากรทางการแพทย์ต้องแจ้งให้ผู้ที่จะฉีดวัคซีนเข้าใจถึงความปลอดภัย และผลที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะข้อห้ามในการฉีดวัคซีน เช่น ผู้ที่แพ้ไข่หรือมีประวัติแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่รุนแรง จะไม่สามารถรับวัคซีนได้ และผู้ป่วยต้องเซ็นยินยอมรับทราบในการฉีดวัคซีน โดยมีการให้ข้อมูลครบถ้วน ซึ่งจะไม่สามารถฟ้องดำเนินคดีอาญาและแพ่งกับเจ้าหน้าที่และส่วนราชการได้" นพ.โอภาสกล่าว