สรุปเหตุการณ์จับกลุ่มต่างชาติลักลอบขนอาวุธสงครามเกือบ 40 ตัน

ข่าวทั่วไป Sunday December 13, 2009 11:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาการ ผบก.ป. ควบคุมตัวชาวต่างชาติ 5 คน ประกอบด้วย นายอเล็กซ์ซานดระ ไซรเนฟ อายุ 53 ปี นายวิคเตอร์ อัลดุลลายาฟ อายุ 58 ปี นายวิทาลี อายุ 54 ปี นายอิลยาส อิสซาคอฟ อายุ 53 ปี ทั้งหมดสัญชาติคาซัคสถาน และนายมิคาอิล พีทูคู อายุ 54 ปี สัญชาติเบลารุส นำตัวไปสอบสวนยังกองปราบปราม ภายหลังตรวจสอบพบอาวุธสงครามจำนวนมากภายในเครื่องบิน ซึ่งขอลงจอดเติมน้ำมันที่สนามบินท่าอากาศยานดอนเมือง อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 18.04 น. วันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หอควบคุมการบิน ได้รับร้องขอจากเครื่องบินลำดังกล่าว ขอลงจอดที่ท่าอากาศยานสุวรรณ อ้างว่าน้ำมันหมด โดยเจ้าหน้าที่อนุญาตให้ลงจอดที่ท่าอากาศยานดอนเมือง

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทางการสหรัฐอเมริกาได้แจ้งมายังเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)ว่าได้มีกลุ่มต่างชาติลอบขนอาวุธสงครามซุกซ่อนจากประเทศเกาหลีเหนือโดยลำเลียงทางเครื่องบินไชฝมะหชึฝมะหทศแถบตะวันออกกลางผ่านนานฟ้าไทย เพื่อลำเลียงส่งกลุ่มก่อการร้ายที่เป็นปรปักษ์กับสหรัฐฯ ภายหลังได้รับการประสาน หน่วยความมั่นคงได้ประชุมหารือเพื่อสกัดกั้นการลำเลียงอาวุสงครามผ่านน่านฟ้าไทย

กระทั่ง วันเดียวกันนี้ ได้รับการประสานงานจากทางการสหรัฐฯ อีกครั้งว่ามีกลุ่มต่างชาติลักลอบขนอาวุธสงครามจากประเทศเกาหลีเหนือเดินทางไปยังประเทศศรีลังกาผ่าน่านฟ้าไทย โดยลำเลียงมากับเครื่องบินแบบทหาร สีขาว ภายหลังได้รับการประสานเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบ พบมีเครื่องบินลำเลียงแบบทหารรุ่น IL 76 (อิลยูชิน 76 ) เลขข้างตัวเครื่อง 4L-AWA สัญชาติคาซัคสถาน ลักษณะต้องสงสัยตามเบาะแสทางการสหรัฐฯ แจ้งมา จอดอยู่ภายในสนามบินท่าอากาศยานดอนเมือง

โดยช่วงเช้า วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ประจำท่าอากาศยานดอนเมือง เข้าตรวจสอบภายในเครื่องบินดังกล่าว ได้พบตู้เหล็กและลังไม้ขนาดใหญ่บางส่วนแยกบรรจุหีบห่อมาอย่างดี โดยบรรทุกมาเต็มลำเครื่อง น้ำหนักรวมประมาณ 35-40 ตัน จากการตรวจสอบสิ่งของภายในทั้งหมดพบเป็นอาวุธสงครามประเภทอาวุธหนักหลายชนิด เช่น ท่อส่งจรวด หัวจรวด จรวดอาร์พีจี เป็นต้น โดยอาวุธประเภทท่อส่งจรวดนั้นมีรายงานว่าเป็นท่อส่งจรวดที่ยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ หรือกราวน์มิซซาย

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ครอบครองอาวุธดังกล่าว แจ้งว่า สิ่งของที่พบนั้นเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนและอะหลั่ยอาวุธสงครามเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรเห็นว่าเป็นอาวุธสงครามร้ายแรง จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ ก่อนประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้าตรวจสอบ ภายหลังรับรายงาน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผบ.ตร. ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามนำกำลังเข้าตรวจค้น พร้อมควบคุมตัวชาวต่างชาติทั้ง 5 คน มาสอบสวนภายในกองทัพอากาศ ก่อนนำตัวไปสอบสวนยังกองปราบปราม

เมื่อเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้นำรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวนหลายคันมาขนถ่ายอาวุธสงครามดังกล่าวไปเก็บไว้ที่คลังสรรพาวุธ กองบิน4 ทหารอากาศ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ก่อนประสานพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่สรรพาวุธตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบอาวุธสงครามทั้งหมดอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ