คร็อปไลฟ์ เอเชีย (CropLife Asia) เผยผลกระทบเชิงบวกของการทำเกษตรกรรมที่มีต่อการแก้ไขปัญหาเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมแนะว่าการจัดหาทางออกที่เหมาะสมสำหรับภาคการเกษตรที่กำลังเผชิญหน้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ในยามที่ผู้นำจากทั่วโลกมารวมตัวกันในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศขององค์การสหประชาชาติ ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
ตัน เซียง ฮี กรรมการบริหารของ คร็อปไลฟ์ เอเชีย กล่าวว่า “เกษตรกรต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงวิธีเพาะปลูกพืชและผลิตอาหารจะเป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อสภาพแวดล้อม ดังนั้นเราต้องจัดหาเครื่องมือและเทคโนโลยีให้พร้อม เพื่อให้เกษตรกรบรรลุเป้าหมายดังกล่าว"
อุตสาหกรรมด้านพืชกำลังทำประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ผ่านทางการพัฒนาเทคโนโลยีและแนวปฏิบัติที่เหมาะสมซึ่งช่วยลดผลกระทบของการทำเกษตรกรรมที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการพัฒนาประสิทธิภาพการใช้น้ำ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลง การปลูกพืชซึ่งใช้การไถหว่านที่ลดลงช่วยเพิ่มปริมาณคาร์บอนในดิน และการปลูกพืชที่ใช้ไนโตรเจนอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ คร็อปไลฟ์ เอเชีย ยังสนับสนุนการปฏิบัติตามสิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งมีความจำเป็นต่อการพัฒนาและการกระจายข่าวสารและเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม ด้วยเห็นว่าเป็นองค์ประกอบหลักในการดึงดูดการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งจากภาคเอกชนและสาธารณะ