กลุ่มองค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมชี้ที่ประชุมแก้ปัญหาโลกร้อนประสบความล้มเหลว

กลุ่มนักสิ่งแวดล้อมและตัวแทนรัฐบาลของประเทศกำลังพัฒนาออกโรงวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงในการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่กรุงโคเปนเฮเกนซึ่งเดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายในวันที่ 18 ธันวาคมว่า เป็นการเจรจาที่ล้มเหลว และไม่มีพันธะผูกพันทางกฎหมาย

องค์กรอ็อกแฟมสากล (Oxfam International) กล่าวว่า ข้อตกลงแก้ปัญหาโลกร้อนที่กรุงโคเปนเฮเกนไม่ได้ช่วยทำให้เรามีความมั่นใจว่า เราจะสามารถรอดพ้นจากปัญหาภาวะโลกร้อน หรือประเทศยากจนจะได้รับเงินช่วยเหลือที่จำเป็นในการใช้รับมือกับปัญหาอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อตกลงที่ได้ในการประชุมครั้งนี้ระบุถึงเป้าหมายในการรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกินกว่า 2 องศาเซลเซียส โดยทุกชาติจะต้องส่งแผนการดำเนินงานดังกล่าวภายในสิ้นปี 2010 และประเทศที่พัฒนาแล้วจะต้องให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในการรับมือกับภาวะโลกร้อนด้วย

ด้านนายคิม คาร์สเทนเซน หัวหน้ากลุ่มที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อมของกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) กล่าวว่า ข้อตกลงครั้งนี้เป็นเพียงการกล่าวซ้ำในสิ่งที่ผู้นำของประเทศต่างๆให้คำมั่นไว้ก่อนที่จะเดินทางมาร่วมประชุมที่เดนมาร์ก ซึ่งไม่สามารถใช้เป็นหลักประกันได้ในอนาคต ดังนั้น การประชุมในครั้งนี้จึงสร้างความผิดหวังให้กับเราเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกันทาง Avaaz.org ได้ออกมาตำหนิท่าทีของสหรัฐและจีนว่า เป็นสองชาติมหาอำนาจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดของโลก แต่กลับไม่มีบทบาทจริงจังในการทำข้อตกลงครั้งนี้มากเท่าที่ควร