กัมพูชาจัดการสัมมนาโดยได้รับความร่วมมือจากยูเนสโก โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันและปราบปรามการโจรกรรม ขนส่ง และลักลอบส่งออกวัตถุโบราณของเขมร
"เราต้องรักษาสมบัติซึ่งแสดงถึงความเป็นชาติไว้ให้ลูกหลานในอนาคต" ขิม สาริธ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมและวิจิตรศิลป์ กล่าวระหว่างเปิดการสัมมนา
นอกจากนั้นเขายังเรียกร้องให้ทางการท้องถิ่นดูแลและรักษามรดกของชาติให้ดี เนื่องจากตามต่างจังหวัดยังมีการลักลอบขนส่งวัตถุโบราณกันมาก พร้อมกันนั้นยังสนับสนุนให้ทางการท้องถิ่นให้ความรู้กับชาวบ้านเกี่ยวกับอันตรายของการสูญเสียวัตถุโบราณที่เป็นสมบัติชาติ
ขณะเดียวกันเขาได้กล่าวขอบคุณชาวต่างชาติที่คืนวัตถุโบราณที่ซื้อไปคืนให้กัมพูชา โดยจนถึงตอนนี้ได้รับคืนมาแล้วทั้งหมด 18 รายการ
ด้านตัน เชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจคุ้มครองมรดกชาติ กล่าวว่า กัมพูชาต้องใช้กฎหมายที่เข้มงวดขึ้นจึงจะสามารถรักษาวัตถุโบราณได้ พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับวัตุโบราณด้วย
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2551 กัมพูชาสูญเสียศิลปะวัตถุโบราณไปทั้งหมด 5 รายการ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถขัดขวางการลักลอบส่งออกวัตถุโบราณ 21 ครั้ง และจับกุมผู้กระทำผิดได้ 4 ราย สำนักข่าวซินหัวรายงาน