นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลจะให้ความสำคัญมากที่สุดในการทำงานปี 53 คือ การทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวและเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าปีหน้าเศรษฐกิจไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องก็จะทำให้ฐานะของประเทศไทยมีความเข้มแข็ง และช่วยสร้างความเชื่อมั่นของประเทศไทยในสายตาของต่างชาติได้ดียิ่งขึ้น
"ถ้าปีหน้าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นั่นหมายความว่าฐานะของประเทศจะมีความเข้มแข็งขึ้น และชาวโลกจะมีความเชื่อมั่นประเทศไทยมากขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" เช้านี้
ขณะเดียวกันในภาคของเศรษฐกิจพอเพียงก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญเช่นกัน โดยจะนำหลักปรัชญานี้เข้าไปอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 โดยได้ให้นโยบายถึงแต่ละโครงการที่อยู่ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ไว้ว่าจะต้องมีความพอประมาณ, สมเหตุสมผล และมีระบบที่ป้องกันความเสี่ยงได้
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ตลอดทั้งปีที่ผ่านมานี้มี 2 เหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น คือ 1.การชุมนุมทางการเมืองในช่วงเดือนเม.ย.ซึ่งทำให้การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยาต้องล่มลง รวมทั้งการชุมนุมในเขตกรุงเทพฯ แต่รัฐบาลก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติได้ และ 2.ปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ชะลอโครงการลงทุน โดยยอมรับว่าเกิดจากความผิดพลาดในการมองเงื่อนไขทางกฎหมายที่ไม่ตรงกัน