สายการบินเจแปน แอร์ไลน์ส (JAL) และสายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ส (ANA) ประกาศใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดกับผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาตามคำเรียกร้องของสหรัฐ หลังเกิดเหตุผู้ก่อการร้ายที่ทำทีเป็นผู้โดยสารพยายามระเบิดเครื่องบินของสายการบินนอร์ธเวสต์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่มุ่งหน้าไปยังเมืองดีทรอยท์ของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
โดยสำนักงานความปลอดภัยขนส่งของสหรัฐได้ขอให้ทั้งสองสายการบินทำการตรวจร่างกายผู้โดยสารอย่างละเอียดก่อนขึ้นเครื่อง จากปกติที่ผู้โดยสารต้องผ่านเครื่องตรวจจับโลหะเท่านั้น นอกจากนั้นทั้งสองสายการบินจะเพิ่มจำนวนพนักงานรักษาความปลอดภัยที่สนามบินและตรวจกระเป๋าทุกใบอย่างละเอียด และผู้โดยสารบนเครื่องทุกคนต้องนั่งอยู่กับที่ในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงก่อนที่เครื่องจะลงจอดที่สหรัฐ
ทางกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นจึงแนะนำให้ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปสหรัฐเตรียมตัวมาขึ้นเครื่องเร็วกว่าปกติ เนื่องจากการตรวจร่างกายและตรวจกระเป๋าอย่างเข้มงวดจะทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิม และในช่วงปีใหม่ก็มีผู้โดยสารมาใช้บริการเป็นจำนวนมากด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายอูมาร์ ฟารุค อับดุล มูตัลลับ ชาวไนจีเรียวัย 23 ปี ได้พยายามจุดระเบิดก่อนที่เที่ยวบิน 253 ของสายการบินนอร์ธเวสต์ แอร์ไลน์ ที่เดินออกจากกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จะลงจอดที่สนามบินดีทรอยท์ เมโทร ในมิชิแกน แต่โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน ทำให้ผู้โดยสารทั้งหมด 278 คนบนเครื่องรอดชีวิต สำนักข่าวเกียวโดรายงาน