ผลการสำรวจของสถาบันสังคมศาสตร์จีนเผยให้เห็นว่า ชายชาวจีนในวัยเจริญพันธุ์กว่า 24 ล้านคนอาจยังคงเป็นโสดไปจนถึงปี 2563 เพราะค่านิยมในการมีทายาทผู้ชายทำให้เกิดภาวะไม่สมดุลทางเพศในหมู่ประชากรชาวจีน โดยชาวจีนยุคเก่ายังคงยึดค่านิยมในการมีทายาทเป็นเด็กผู้ชาย ส่งผลให้มีการทำแท้งเพื่อเลือกเพศของทารก
หวาง กวางโจว นักวิจัยของสถาบันฯกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวมีความรุนแรงในชนบท เพราะกลไกในเรื่องเสถียรภาพทางสังคมไม่มีอยู่ เกษตรกรที่มีอายุมากขึ้นต่างก็จำเป็นต้องพึ่งพาลูกหลานของตนเอง จำนวนผู้ชายที่มีมากเกินไปในสังคมจะทำให้ผู้ชายที่มีรายได้น้อยประสบปัญหาในการหาคู่ครอง รวมทั้งเรื่องช่องว่างระหว่างวัยที่สูงขึ้น
คณะกรรมการวางแผนครอบครัวและประชากรแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า อัตราเพศทารกเมื่อแรกเกิด (SRB) จะเป็นผู้ชาย 103-107 คนต่อผู้หญิงทุกๆ 100 คน โดยตัวเลข SRB ของจีนในปี 2548 ชี้ว่าอัตราการเกิดของเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง 19 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสถิติปี 2535 ที่มีเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง 8 คน
ภาวะไม่สมดุลทางเพศเช่นนี้ทำให้เกิดปัญหาการลักพาตัว การค้าผู้หญิงและเด็กทารกในพื้นที่ที่มี SRB ที่เป็นเพศชายสูง บางพื้นที่จะมีปัญหาเรื่องการลักพาตัวข้ามประเทศ การแต่งงานโดยผิดกฎหมาย และการค้าประเวณี
จีนได้นำนโยบายลูกคนเดียวมาใช้เมื่อปี 2523 เพื่อจำกัดขนาดของครอบครัวและสนับสนุนให้คู่สมรสแต่งงานและมีลูกช้า ซึ่งนโยบายดังกล่าวทำให้เกิดภาวะไร้สมดุลทางเพศในหมู่ประชากร สำนักข่าวเกียวโดรายงาน