นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เปิดเผยว่า อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5(ผบช.ภ.5), พ.ต.อ. สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท (ผู้กำกับการ)ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี, พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรั้ง ตำรวจนอกราชการ ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน ปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำหรือไม่กระทำการใดๆ
ทั้งนี้เป็นไปตามสำนวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้แจ้งข้อกล่าวหาไว้ก่อนหน้านี้ว่าผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันฆ่านายโมฮัมหมัด อัลรูไวรี่ นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นพระญาติของกษัตริย์ไฟซาล โดยหายตัวไปตั้งแต่ปี 2533
อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวว่า คดีนี้อัยการได้ดำเนินการทางคดีร่วมกับดีเอสไอ และเชื่อว่าพยานหลักฐานใหม่ที่ดีเอสไอได้มามีความชัดเจนเพียงพอ อัยการจึงพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งหลังจากอัยการแจ้งคำสั่งต่อผู้ต้องหาทั้งหมดแล้วได้นำตัวไปส่งฟ้องต่อศาลอาญา
ส่วนหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของผู้ต้องหานั้น นายธนพิชญ์ กล่าวว่า ตนเองได้พิจารณาแล้วได้เสนอความเห็นให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแล โดยมีรองอัยการสูงสุด 2 คนและอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษรับผิดชอบเพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นธรรม