นานาประเทศพร้อมใจส่งความช่วยเหลือสู่เฮติไม่ขาดสาย ส่งผลการจราจรสนามบินเฮติแน่นขนัด

ข่าวต่างประเทศ Friday January 15, 2010 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หน่วยปฏิบัติการกู้ภัยจากทั่วโลกแห่เดินทางมาให้ความช่วยเหลือเฮติในวันนี้ หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.0 ริกเตอร์ในเฮติเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้การจราจรแน่นขนัดที่สนามบินนานาชาติเฮติ ซึ่งเป็นสนามบินเพียงแห่งเดียวของประเทศ ขณะที่สภากาชาดเฮติประมาณการว่า ยอดผู้เสียชีวิตในขณะนี้อาจสูงถึง 50,000 คน

การจราจรที่ติดขัดที่บริเวณสนามบินนานาชาติเฮติทำให้รัฐบาลเฮติออกแถลงการณ์ขอระงับการลงจอดของเครื่องบินจากนานาประเทศ เนื่องจากพื้นที่ในสนามบินแน่นขนัดและทางสนามบินไม่มีเชื้อเพลิงมากพอที่จะเติมเครื่องบินให้เดินทางกลับไปยังประเทศต้นทางได้ โดยมีรายงานว่าเครื่องบิน 9 ลำของสหรัฐต้องบินวนอยู่เหนือน่านฟ้าและรอการร่อนลงจอดที่สนามบินเฮติในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่สำนักงานการบินของรัฐบาลกลางสหรัฐมีคำสั่งระงับเที่ยวบินไปเฮติเป็นการชั่วคราว จนกว่าทางเฮติจะเคลียร์พื้นที่ที่สนามบินเป็นผลสำเร็จ

นายโรเบิร์ต กิ๊บส์ โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่เฮติในทุกๆด้าน และหน่วยปฏิบัติการกู้ภัยของสหรัฐมีประสิทธิภาพสูงพอที่จะช่วยค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงในครั้งนี้ ด้านประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส เรียกร้องให้การประชุมเพื่อช่วยเหลือเฮติทั้งในด้านการก่อสร้างและการพัฒนาพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย

เจ้าหน้าที่สภากาชาดเฮติประมาณการว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้อาจสูงถึง 50,000 คน ขณะที่นายฌอง-แม็กซ์ เบลเลอร์รีฟ นายกรัฐมนตรีของเฮติ คาดการณ์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมอาจมีอยู่มากกว่า 100,000 ราย โดยสภากาชาดเฮติแสดงความกังวลว่าแม้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากออกจากซากปรักหักพังได้ แต่ก็ยังมีร่างผู้เสียชีวิตอีกจำนวนมากที่ติดอยู่ในซากตึก ซึ่งในอีก 2-3 วันข้างหน้าศพเหล่านี้จะส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง ทำให้สภากาชาดต้องเร่งเคลื่อนย้ายซากศพเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคชนิดต่างๆ รวมถึงอหิวาห์ รวมทั้งต้องใช้ถุงบรรจุศพ ยาปฏิชีวนะ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำนวนมาก

นายเดวิด วิมเฮิร์ส ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการด้านการรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาติ (ยูเอ็น) ประจำเฮติกล่าวว่า ชาวเฮติจำนวนมากรู้สึก "สิ้นหวัง" ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และความพยายามในการให้ความช่วยเหลือเฮติยังมีไม่มากพอ ทำให้ชาวเฮติจำนวนมากหมดความอดทนและเริ่มรู้สึกโกรธแค้น ซึ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก นอกจากนี้ การที่ประชาชนไม่มีที่อยู่อาศัยทำให้ต้องมานอนรวมกันอยู่ตามท้องถนน ซึ่งเป็นการปิดกั้นการสัญจรไปมา ทำให้หน่วยบรรเทาทุกข์เข้าถึงพื้นที่ประสบภัยได้ยากขึ้น

นอกจากนี้ มีรายงานว่า USAID ได้ส่งอาหารปริมาณ 14,550 ตันไปยังเฮติ เพื่อประทังชีวิตประชาชน 1.2 ล้านคนได้ในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ขณะที่สเปนได้ส่งเครื่องบิน 6 ลำพร้อมปัจจัยบรรเทาทุกข์และแพทย์ ส่วนรัสเซียส่งเครื่องบนขนส่ง Il-76 จำนวน 4 ลำพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย 135 คนและอุปกรณ์สนาม 50 ชุด โปแลนด์ส่งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 63 คนและทีมสุนัขดมกลิ่น 12 ตัว ไอร์แลนด์ส่งเจ้าหน้าที่ 100 คนที่ประกอบไปด้วยวิศวกร แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข

ส่วนการบริจาคเงินจากสถาบันการเงินหลั่งไหลเข้าสู่เฮติอย่างหนาแน่น รวมถึงเงินบริจาควงเงิน 1 ล้านดอลลาร์จากมอร์แกน สแตนลีย์, โกลด์แมน แซคส์, เจฟเฟอร์รีส์ก กรุ๊ป อิงค์ ขณะที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, แบงค์ ออฟ อเมริกา, บริษัท วอล-มาร์ท, วอลท์ ดิสนีย์ และเทสโก้ ก็ทุ่มเงินบริจาคช่วยเหลือเฮติเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ