อัยการสำนักงานคดีพิเศษ 5 นำตัว"เจ๊ฉอด"นางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหาร บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย(GMMM) ไปส่งฟ้องต่อศาลอาญา ในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานให้ปฎิบัติ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
โดยคำฟ้องของอัยการระบุว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค.46 กองกระจายเสียง กองทัพบก ได้ประกวดราคาการสั่งโฆษณาวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุกระจายเสียงจเรทหารสื่อสาร 1 เอฟ.เอ็ม. 94.5 พอถึงวันที่ 26 ส.ค.46 ซึ่งเป็นวันกำหนดยื่นซอง มีผู้เสนอชื่อเข้าประกวด 2 ราย ได้แก่ บริษัท บรอดคลาสติ้งเนตเวิร์ค จำกัด และบริษัทโกลบอลมิวสิคเทเลวิชั่นจำกัด โดยบริษัท บรอดคลาสติ้งฯ เป็นผู้ชนะการประกวดราคาในวงเงิน 1.23 ล้านบาทเศษ
ต่อมา พ.อ.ชิษณุ โสพจน์ อดีตนายทหารประจำกรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก กับพวก ที่อัยการยังไม่ได้ตัวมาฟ้องเป็นนายทหารยศพลเอกร่วมกับจำเลยในคดีนี้ได้เสนอเอกสารเกี่ยวกับการประกวดราคาให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตรวจสอบเข้าใจผิดว่ามี บมจ.จีเอ็มเอ็มมีเดีย เป็นบริษัทที่ 3 ที่เข้าประกวดราคา แล้วถือโอกาสแก้ข้อความเป็นว่า ผู้ชนะการประกวดราคา คือ บมจ.จีเอ็มเอ็ม มีเดีย
หลังจากนั้นได้แก้ตัวเลขราคาสั่งโฆษณากับจำนวนภาษีจากเดิม 1,235,850 บาท เป็น 1,444,500 บาท ต่อมา พ.อ.ชิษณุ ได้ทำปลอมตารางการแสดงผลการคัดเลือกแล้วเอาไปเสนอให้ พ.ต.หญิง ดวงฤดี กิตติยุทธโยธิน ผู้รับผิดชอบให้เข้าใจผิดว่าเป็นความจริง
การกระทำของจำเลยจึงเป็นการสนับสนุน พ.อ.ชิษณุ ทำให้กองทัพบกเสียหาย ต่อมาบริษัท บรอดคลาสติ้งฯ ได้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ทำการไต่สวนแล้วเห็นว่า คดีมีมูล จึงได้แยกดำเนินคดีกับ พ.อ.ชิษณุ ไว้แล้ว ซึ่งคดีอยู่ระหว่างพิจารณา
ทั้งนี้ นางสายทิพย์อยู่ระหว่างยื่นคำร้องขอประกันตัว พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 2 แสนบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
ด้านนางสายทิพย์ กล่าวว่า ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องการกล่าวหากันในอดีตมาตั้งแต่ปี 2546 เป็นการเสนอราคาตามปกติของธุรกิจวิทยุ ซึ่งเป็นสัญญาสั้นๆเพียง 1 ปี มูลค่าทางธุรกิจเพียงเล็กน้อย และเรื่องนี้ก็ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องใช้เวลาพิสูจน์ความจริงอีกระยะหนึ่ง และเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมจะให้ความถูกต้องในที่สุดเอง