สวนดุสิตโพลระบุ ปชช.ส่วนใหญ่เชื่อรัฐบาลผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ระบุ ผลสำรวจประชาชน 57.85% คิดว่ารัฐบาลจะผ่านพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เพราะ รัฐบาลก็ได้แก้เกมการเมืองด้วยการปรับ ครม. ไปก่อนแล้ว ,ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงให้ความเชื่อถือและเชื่อมั่นรัฐบาลเหมือนเดิม ขณะที่ 27.31% ไม่แน่ใจว่าจะผ่านการอภิรายไม่ไว้วางไจ ขึ้นอยู่กับการชี้แจงและข้อมูลสนับสนุนที่นำมาประกอบว่ามีน้ำหนักมากพอหรือไม่ และ 14.84% คิดว่ารัฐบาลจะไม่ผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ผลสำรวจดังกล่าวความเห็นประชาชนจำนวน 3,326 ตัวอย่าง จากทุกกลุ่มสาขาอาชีพ ช่วง 18-23 ม.ค.53 ในหัวข้อ "ประชาชนคิดอย่างไร กรณีฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล" หลังจากที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุ จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจปลายเดือนก.พ.นี้ โดยพุ่งเป้าไปที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล และผู้คุมนโยบายทั้งหมด

จากผลสำรวจประชาชน 49.46% เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ฝ่ายค้านควรเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาพบปัญหาไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง ที่รัฐบาลควรออกมาชี้แจง ขณะที่ 32.18% เห็นว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะที่ผ่านมารัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าหลายเรื่อง จึงควรเปิดโอกาสให้รัฐบาลบริหารงานต่อไปก่อน

ทั้งนี้ เรื่องที่ประชาชนต้องการให้ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายรัฐบาลมากที่สุด อันดับ 1 เป็นการทุจริตเกี่ยวข้องกับโครงการไทยเข้มแข็ง คิดเป็น 38.77% รองลงมา การบริหารงานที่ผิดพลาดล่าช้า อาทิ การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, การยกเลิกหวยออนไลน์, การกู้เงินของรัฐบาลที่ทำให้ประเทศมีหนี้สินจำนวนมาก เป็นต้น

นอกจากนี้ผลสำรวจ 46.71% เห็นว่า ผลดีของการเปิดอภิปราย คือ การได้รับฟังข้อเท็จจริงของทั้ง 2 ฝ่าย รองลงมา เป็นการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เป็นการกระตุ้นให้รัฐบาลต้องทำงานโปร่งใสรัดกุมมากขึ้น ขณะที่ 30.35% เห็นว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นผลเสีย เพราะทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงาน และ 25.58% เห็นว่า อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองเพิ่มขึ้น นอกจากนี้15.92% ระบุว่า ไม่อยากเห็นภาพการประท้วง การใช้กิริยาที่ไม่เหมาะสม