นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลที่ได้จากการเข้าร่วมประชุมประจำปี World economic forum ครั้งที่ 40 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ว่า ได้ยืนยันบทบาทของไทยในการเป็นประเทศส่งออกอาหารที่สำคัญของโลก ซึ่งทำให้หลายฝ่ายได้รับทราบถึงนโยบายของรัฐบาลในภาคการเกษตร โดยเฉพาะกรณีที่ไทยจะนำข้าวไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เฮติ ซึ่งถือว่าเป็นการตอกย้ำสถานะของไทยในฐานะผู้ส่งออกอาหาร
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศเห็นตรงกันว่าการทำให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร คือการลดการกีดกันทางการค้า ซึ่งมีการพูดถึงการเจรจาในรอบโดฮา ที่อยากให้การเจรจาบรรลุข้อตกลงได้โดยเร็วที่สุดภายในปีนี้ หรืออย่างช้าภายในปีหน้า
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ได้เข้าร่วมการประชุมในอีก 2 เวทีเกี่ยวกับเอเชียตะวันออก ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบถึงการเป็นประธานอาเซียนของไทยในช่วงที่ผ่านมา รับทราบถึงความคืบหน้าและลู่ทางการลงทุนต่างๆ รวมถึง ได้พบกับนักลงทุนขนาดใหญ่ในโลกที่กำลังดำเนินโครงการต่อต้านคอรัปชั่น ซึ่งเป็นประโยชน์กับไทยทั้งสิ้น อีกทั้ง ได้พบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ เช่น ประธานาธิบดีสหพันธรัฐสวิส นายกรัฐมนตรีเบลเยียม และผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก พร้อมกันนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ โดยชี้แจงให้รับทราบถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย ส่วนที่มีการสอบถามถึงสถานการณ์ทางการเมือง ยืนยันไปว่า สถานการณ์ทางการเมือง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล และยังสามารถเดินหน้าบริหารจัดการให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้
"ในการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ยังมีโอกาสพบกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับมาบตาพุด และผู้สนใจขยายการลงทุนเพิ่มเติม ส่วนใหญ่แสดงความสนใจชัดเจนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและเชื่อมโยงไปสู่การทำประโยชน์ให้กับสังคมเพิ่มมากขึ้นด้วย"นายกรัฐมนตรีกล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 15,25 น.โดยประมาณ