รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายแบบเต็มตัวที่สนามบิน เช่นเดียวกับบางประเทศที่ดำเนินการติดตั้งเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว หลังเกิดเหตุชายชาวไนจีเรียพยายามจุดชนวนระเบิดบนเครื่องบินของสายการบินนอร์ธเวสต์ แอร์ไลน์ ที่บินออกจากกรุงอัมสเตอร์ดัม มาลงจอดที่เมืองดีทรอยต์เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา
โดยเครื่องสแกนร่างกายแบบเต็มตัวออกแบบมาให้สามารถปรากฏภาพร่างกายผู้โดยสารเป็นแสงสีขาว และเห็นสิ่งแปลกปลอมเป็นสีดำ ซึ่งรัฐบาลมองว่าเทคโนโลยีดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องตรวจจับโลหะที่ใช้ตรวจสิ่งของที่ผู้โดยสารพกพาไว้ในเสื้อผ้า แต่อีกด้านก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาเรื่องการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเปิดรับฟังความเห็นจากรัฐบาลสหรัฐและสายการบินต่างๆเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะติดตั้งเครื่องดังกล่าวหรือไม่ หลังจากที่ได้รับทราบเกี่ยวกับแผนการติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายรวมถึงผลตอบรับจากการที่ประเทศอื่นๆได้ทดลองใช้งานไปบ้างแล้ว
ทั้งนี้ หลังจากที่ทางการสหรัฐสามารถจับตัวคนร้ายที่หมายก่อเหตุโจมตีทางอากาศได้สำเร็จ รัฐบาลก็ได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายแบบเต็มตัวตามสนามบิน ซึ่งขณะนี้มีเนเธอร์แลนด์ อังกฤษ แคนาดา อิตาลี ฝรั่งเศส และเกาหลีใต้ได้ดำเนินการติดตั้งหรือมีแผนที่จะติดตั้งระบบดังกล่าวไว้แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เครือข่ายก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ในคาบสมุทรอาหรับได้เผยแพร่แถลงการณ์บนเว็บไซต์ถึงความพยายามที่จะตอบโต้การโจมตีของสหรัฐในเยเมน ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐยอมรับความผิดพลาดด้านระบบการทำงานของหน่วยข่าวกรอง และสั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามบิน