ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) แถลงข่าวตอบโต้ผลพิสูจน์ของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กรณีที่ออกมาระบุว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไม่ส่งผลกระทบข้างเคียวกับหญิงตั้งครรภ์ พร้อมเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้ง
"อยากให้กระทรวงสาธารณสุขได้ศึกษาอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ข้อมูลที่น่าเชื่อต่อประชาชน ไม่ให้เกิดขัดแย้งขึ้น ผมไม่เชื่อคำแถลงของกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่ได้ต้องการให้ยุติการฉีดวัคซีน เพราะจะเกิดความเสียหายมากกว่า ผมมองว่าที่กระทรวงสาธารสุขออกมาแถลงเช่นนั้นอาจเป็นเพราะว่าไม่ต้องการให้ประชาชนตื่นตระหนก" นายสุกิจ อักโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรค ปชป.กล่าว
นายสุกิจ กล่าวว่า การที่แพทย์ระบุอาการของคนไข้ที่แท้งลูกเพราะครรภ์เป็นพิษ ในฐานะที่ตนเองเป็นสูตินารีแพทย์ ผ่านการทำคลอดมามาก หากคนไข้มีอาการครรภ์เป็นพิษจะต้องส่ออาการมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกรณีที่ จ.สตูล และพัทลุง ที่มีการโยงว่าผู้ป่วยอาจเป็นโรคพุ่มพวง(เอสแอลอี) ซึ่งดูจากประวัติคนไข้ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เป็นเรื่องที่เกิดยาก
"คิดว่าอาการดังกล่าวน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งต้องยอมรับว่าวัคซีนดังกล่าวมีการเร่งรีบใช้ให้ทันกาล จึงไม่มั่นใจในความบริสุทธิ์ของวัคซีน แม้แต่แพทย์หลายท่านก็ไม่ยอมให้ฉีด ดังนั้นการบอกความจริงไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เริ่มผลิตวัคซีน" นายสุกิจ กล่าว
ด้านนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง กล่าวว่า ตนเองได้เข้าไปดูอาการของหญิงตั้งครรภ์ชาวพัทลุงที่รับฉีดวัคซีนจนแท้งลูก หลายครั้ง ซึ่งแพทย์ได้ระบุว่าปอดมีจุดเป็นฝ้า มีการอักเสบอย่างรุนแรง และอาการไตวาย ซึ่งแพทย์บอกว่าอย่าตัดประเด็นการแพ้วัคซีนไข้หวัด 2009 ออกไป ซึ่งต่อมาแพทย์ที่จังหวัดสงขลาก็ระบุสาเหตุเกิดจากการฉีดวัคซีน
"ผมไม่เชื่อผลการศึกษาของกระทรวงสาธารสุข เพราะถือว่ามีส่วนได้เสียกับโครงการนี้ จึงอยากเรียกร้องแพทย์มีจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด บอกความจริงให้ประชาชนรับรู้ว่ามีผลข้างเคียงกับหญิงตั้งครรภ์หรือไม่อย่างไร เรื่องนี้ผู้ป่วยและญาติไม่ประสงค์ที่จะเรียกร้องความเสียหาย" นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารสุขตั้งคณะกรรมการที่ไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้รณรงค์และบริษัทผู้ฉีดวัคซีนมาตรวจสอบกรณีหญิงตั้งครรภ์ทั้ง 6 รายเพื่อพิสูจน์ความจริงอีกครั้ง หากผลออกมาอย่างไรก็จะยอมรับ
ขณะที่นายอสิ มะหะมัดยากี ส.ส.สตูล กล่าวว่า ตนเองในฐานะกรรมาธิการการสาธารณสุขจะนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุม โดยจะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง คือ บริษัทที่ผลิตวัคซีน ญาติผู้ป่วย และกระทรวงสาธารณสุข เข้าชี้แจงในสัปดาห์หน้า