รายงานข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า รมว.ต่างประเทศ เตรียมนำคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา เอเชีย และยุโรป รวมประมาณ 15 คน ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างวันที่ 20-21 ก.พ.นี้ เพื่อรับทราบสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ดังกล่าว
"วัตถุประสงค์เพื่อให้คณะทูตต่างประเทศในไทยได้รับรู้เกี่ยวกับปัญหาชายแดนภาคใต้และความมุ่งมั่นพยายามของรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
โดยคณะทูตฯ จะเข้าพบผู้แทนจากฝ่ายต่างๆ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, คณะกรรมการกลางอิสลามจังหวัดปัตตานี, นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, ผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม(NGO), สมาชิกสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุข และดาโต๊ะยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ยังจะเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภาค 4 ซึ่งเป็นดำริของ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ในการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้กับชุมชนท้องถิ่นตามแนวทางพระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" รวมทั้งเยี่ยมชมการจัดการบริหารท้องถิ่น เช่น สภาสันติสุขตำบลบ้านปิยามุมัง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และโครงการฟาร์มตัวอย่างตำบลวังพญา-ท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
การเยือนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความเข้าใจแก่นานาประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ที่แท้จริงและการดำเนินงานของรัฐบาลเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่ง รมว.ต่างประเทศได้นำคณะเอกอัครราชทูตต่างประเทศไปเยือนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ กลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(3-4 พ.ค.52), กลุ่มประเทศสมาชิกองค์การการประชุมอิสลาม(9-10 ส.ค.52) และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง(11-12 ต.ค.52)
วานนี้ เมเปิลครอฟท์ บริษัทที่ปรึกษาความเสี่ยงของอังกฤษ เผยผลสำรวจว่า ไทยติดอันดับ 9 ประเทศที่เสี่ยงภัยก่อการร้าย ซึ่งเลื่อนชั้นจากอันดับ 11 ในการสำรวจครั้งก่อน