เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. เรียกประชุมชุดสืบสวนทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เพื่อคลี่คลายคดีคนร้ายยิงระเบิดชนิด เอ็ม 79 เข้าไปภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เมื่อวันที่ 13 ก.พ.53 ที่ผ่านมา และกรณีที่คนร้ายลอบวางระเบิดซีโฟร์ภายในรั้วของศาลฏีกา เมื่อวันที่ 14 ก.พ.53 ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
"เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งรางวัลนำจับสำหรับประชาชนที่สามารถชี้เบาะแสของคนร้ายได้ เป็นเงินจำนวน 1ล้านบาท สำหรับคดีระเบิดที่เกิดขึ้นทั้ง 2 จุด ตนเชื่อว่าต้องมีผู้ที่เห็นเหตุการณ์จนนำไปสู่การจับกุมคนร้าย"พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าว
ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนของกก.สส.บก.น.1 และฝ่ายสืบสวนของสน.นางเลิ้ง รวมทั้งของสน.ชนะสงคราม นำภาพวงจรปิดในพิกัดที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงรัศมี 360 องศา มาตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาตัวผู้ต้องสงสัย พร้อมทั้งติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้าย
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวอีกว่า สำหรับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเชื่อว่าน่าจะเป็นบุคคลที่มีศักยภาพสูง ไม่ใช่เพียงบุคคลธรรมดา หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบที่เกิดเหตุ กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ( กสก.พฐก.) ได้ทำการตรวจหาวิถีการยิงของระเบิดเอ็ม 79 พบว่า คนร้ายน่าจะยิงมาจากอัฒจรรย์ ชั้น 5 ภายในสนามม้านางเลิ้ง เนื่องจากระเบิดชนิดเอ็ม 79 จะใช้รัศมีในการยิง 390 เมตร แสดงว่าคนร้ายน่าจะยิงมาจากจุดดังกล่าวจึงตกลงที่เกิดเหตุพอดี
"นอกจากนี้เจ้าหน้าที่กองพิสุจน์หลักฐานยังได้เก็บชิ้นส่วนระเบิดเอ็ม 79 อีก จำนวน 19 ชิ้นไปตรวจสอบแล้ว คาดว่าอีกไม่กี่วันก็จะรู้ผลและทราบที่มาของระเบิดอย่างชัดเจน ส่วนกรณีที่คนร้ายลอบวางระเบิดซีโฟร์ภายในรั้วศาลฏีกา ในการประชุมวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ได้นำแผงวงจรระเบิดซีโฟร์มาสาธิตในที่ประชุมเพื่อหาความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มคนร้าย ซึ่งมีทั้งนาฬิกาดิจิตอลยี่ห้อ ควอทซ์ ถ่านไฟฉายและสายไฟ สาเหตุที่ต้องนำแผงวงจรมาสาธิตในครั้งนี้ ก็เนื่องจากคนร้ายแต่ละกลุ่มมีความเชี่ยวชาญในการต่อวงจรระเบิดไม่เหมือนกัน การสาธิตนี้อาจจะเป็นแนวทางที่ทำให้รู้ตัวของคนร้ายเร็วขึ้นว่าเป็นใคร" พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าว