นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการปฎิรูปการศึกษา เตรียมจัดประชุมสมัชชาครั้งใหญ่ในเดือน มี.ค. 53 เพื่อนำไปสู่การปฎิรูปการศึกษารอบที่ 2 ให้เกิดการปฎิรูปอย่างชัดเจน เป็นรูปธรรมและสัมฤทธิผล หลังจากที่ได้มีการปฎิรูปการศึกษารอบแรกไปแล้ว ตั้งแต่ปี 42 แต่ยังพบว่าประเด็นปัญหาที่ต้องปรับปรุงในหลายด้าน
โดยการปฎิรูปการศึกษาครั้งนี้ จะเป็นการปรับปรุงบุคลากรทางการศึกษา การปรับปรุงระบบบริหารจัดการ ซึ่งจากการประเมินคุณภาการศึกษา พบว่า โรงเรียนขนาดเล็กจะมีปัญหามากที่สุด มีการใช้ทรัพยากรมาก แต่ได้ผลสัมฤทธิต่ำ นอกจากนี้จะมีการ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยพบว่า โรงเรียนระดับประถมศึกษามีเนื้อหาซ้ำซ้อนเกินความจำเป็น ถึง 30% ดังนั้น จะเพิ่มพื้นที่เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรม เรียนรู้นอกห้องเรียนมากขึ้น เป็นการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรและระบบการศึกษาครั้งสำคัญ เพื่อให้ลูกหลานเติบโตอย่างความรู้รอบด้าน ใช้ได้จริง เตรียมพื้นฐานที่ดีเพื่อการเติบโตในสังคม
"เมื่อวันจันทร์ที่ 18 ก.พ.ที่ผานมาได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการนโยบายปฏิรูปการศึกษา เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ โดยจะมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์สุดท้าย คือตัวนักเรียน เมื่อผ่านการศึกษาออกมาแล้ว ต้องเป็นคนมีคุณภาพ เก่ง ดี มีความสุข ไม่ลืมความเป็นไทย และเข้าใจเรื่องราวระดับสากล" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ในการรายเชื่อมั่นประเทศไทย ฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้รณงค์ประหยัดพลังงานเพื่อช่วยแก้ปัญหาโลกร้เอน เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังบงาน โดยได้เริ่มการเปลี่ยนหลอดไฟ มาเป็นหลอดไฟแบบผอมเบอร์ 5 ประหยัดไฟได้ถึง 30% ซึ่งเริ่มที่ส่วนราชการ นอกจากนี้ในส่วนของภาคเอกชน สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน มาหักลดหย่อนภาษีได้ 25% ขณะที่ค่าใช้จ่ายจาการเปลี่ยนหลอด จะคืนทุนได้ภายใน 2 ปี