นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ทั้งจากกรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมการข้าวว่า การประชุมรับฟังนโยบายในระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานครั้งนี้เพื่อเป็นส่วนสำคัญที่จะเชื่อมโยงข้อมูลจากรัฐบาลเกี่ยวกับมาตรการยุติการระบาดของโรคเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลไปสู่เกษตรกรในการร่วมมือป้องกันและยุติการระบาดของโรคดังกล่าว โดยเฉพาะเกษตรกรที่มีการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้ว หรือเข้าร่วมโครงการไถกลบต้นข้าวที่มีโอกาสเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคเขียวเตี้ยและโรคใบหงิกที่กระทรวงเกษตรฯ จะรณรงค์ให้มีการพักนาในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน และไปเริ่มต้นฤดูการทำนาในรอบใหม่ในเดือนพฤษภาคมต่อไป ซึ่งนอกจากจะเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดไม่ให้ขยายวงกว้าง แล้วยังเป็นการป้องกันความเสียหายของผลผลิตของเกษตรกรอีกด้วย
ขณะนี้สถานการณ์การระบาดและการสำรวจทางวิชาการ พบว่า การระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ลดลงเหลือ 8 จังหวัด พื้นที่ 3.9 แสนไร่ และพบการระบาดของโรคเขี้ยวเตี้ย และโรคใบหงิก ซึ่งมีเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเป็นพาหะในพื้นที่ 11 จังหวัด และมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการผลิตข้าวในฤดูการผลิตข้าวรอบที่ 2 และอาจเพิ่มความรุนแรงเป็น 5—10 เท่าในฤดูนาในปีถัดไป
"ที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการควบคุมสถานการณ์การระบาดมาโดยตลอดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2552 รวมถึงการกำหนด 3 มาตรการในการเข้าไปแก้ไขปัญหาเพลี้ยระบาดอย่างรวดเร็วตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติวงเงินงบประมาณ วงเงิน 1,240 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินจำนวน 501 ล้านบาทให้เบิกจ่ายจากงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และจำนวนเงินอีก 739 ล้านบาท ขอใช้เงินจากเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2554" นายธีระ กล่าว