เอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนถึงความเครียดและทางออกในบรรยากาศขัดแย้งทางการเมืองปัจจุบัน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล, ไม่สนับสนุนรัฐบาล และกลุ่มที่เป็นกลางทางการเมืองหรือกลุ่มพลังเงียบ ต่างรู้สึกเครียดต่อบรรยากาศขัดแย้งทางการเมืองในปัจจุบัน
โดยผลสำรวจพบว่า 3 อันดับแรกของวิธีที่ใช้ในการลดความเครียดในสถานการณ์ขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ อันดับแรก คิดเป็น83.5% ระบุว่าพยายามไม่ยึดติดกับกลุ่มการเมืองใดๆ อันดับสอง คิดเป็น 83.1% ระบุว่าต้องปล่อยวาง ยอมรับสภาพความเป็นจริง และอันดับสาม คิดเป็น 79.6% ระบุว่าให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง
นอกจากนี้ที่น่าสนใจคือ 5 อันดับแรกของสิ่งที่ประชาชนอยากบอกกับคนไทยคนอื่นๆ ในประเทศคือ อันดับแรก อยากเห็นความสงบสุข กลับคืนมาโดยเร็ว อันดับที่ 2 อยากเห็นคนไทยรักกัน อันดับที่ 3 อยากให้เลิกทะเลาะกัน อันดับที่ 4 อยากให้ใช้เหตุใช้ผลแก้ปัญหามากกว่าอารมณ์โกรธแค้นกัน และอันดับที่ 5 อยากให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน
นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ กล่าวว่า จากผลสำรวจครั้งนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วง และควรเฝ้าระวังกลุ่มคนที่เครียดค่อนข้างมากถึงเครียดมากในทุกกลุ่ม เพราะความเดือดร้อนในชีวิตประจำวันของประชาชนมีมากอยู่แล้ว เมื่อปมขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นก็ง่ายต่อการทำให้ประชาชนเกิดความเครียดเพิ่มขึ้นไปอีก
"กระแสข้อมูลข่าวสารที่เลือกข้างเป็นตัวเร่งปลุกปั่นปรุงแต่งอารมณ์ความรู้สึกให้รักและเกลียดเกิดขึ้นในหมู่ประชาชนคนไทย จนบัดนี้อาจพัฒนาไปสู่พฤติกรรมร่วมหมู่ที่ใช้ความรุนแรงโดยไม่ฟังเสียงเตือนจากใครทั้งสิ้นแม้แต่คนใกล้ชิด ผลที่ตามมาคือประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ในสังคมก็อาจจะเสียหายเดือดร้อนหนักไม่แตกต่างไปจากชาวเฮติและชิลีที่ถูกภัยธรรมชาติ เป็นผู้กระทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน แต่สำหรับประเทศไทยกลับกลายเป็นว่าคนไทยด้วยกันเองเป็นผู้กระทำให้เกิดการสูญเสียเอง" นายนพดล กล่าว
ผลสำรวจดังกล่าว มาจากความคิดเห็นของประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,394 ครัวเรือน ดำเนินการสำรวจในวันที่ 5-6 มีนาคม 2553