นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) แถลงภายหลังการประชุมวันนี้ว่า ที่ประชุมมีมติให้เสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.)และอำเภอโดยรอบ ในช่วงวันที่ 11-23 มี.ค.นี้ เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นจากการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)
"แม้แกนนำผู้ชุมนุมมีการประกาศว่าจะชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวงและถนนราชดำเนิน แต่การข่าวตรวจพบว่ามีหลายกลุ่มหลายฝ่ายที่อาจจะออกไปปฏิบัติการนอกเส้นทางหรือนอกจุดที่แกนนำประกาศไว้ เราจึงจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพื่อป้องกันเหตุ เพื่อปกป้องพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากเหตุการณ์ที่อาจไม่คาดฝัน"นายสุเทพ กล่าว
ในพื้นที่รอบกทม.ที่อาจจะอยู่ภายใต้การประกาศใช้ กม.ดังกล่าว ได้แก่ บางอำเภอของ จ.ปทุมธานี , อยุธยา และ สมุทรปราการ ซึ่งคตม.ประเมินว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอาจใช้เป็นเส้นทางหลักในการเคลื่อนเข้ามาชุมนุมภายใน กทม.และจากการประเมินคาดว่าจะมีผู้ชุมนุมมารวมตัวเพื่อเดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาในกทม.นับแสนคน
นอกจากนั้น อาจจะมีการเคลื่อนรถยนต์ รถบรรทุกขนาดเล็ก รถกระบกะ และรถอีแต๋นนับหมื่นคันเข้ามาด้วย ทำให้คตม.เกิดความกังวลว่าการนำรถยานพาหนะจำนวนมากมเข้ามาในกทม.อาจทำให้เกิดความวุ่นวายและปัญหาจราจรติดขัด ซึ่ง คตม.จะไม่ปล่อยให้กทม.เป็นอัมพาต
ดังนั้น จึงมีมติให้ ผบ.ตร.จัดคณะทำงานเจรจากับผู้ชุมนุมทุกระดับ เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้นำพาหนะบางประเภทเข้ามาในกทม.ซึ่งผู้ชุมนุมอาจเลือกเดินทางมาด้วยรถไฟหรือรถบัส ส่วนรถส่วนตัวจะมีการจัดเตรียมสถานที่จอดรถบริเวณชานเมือง และจัดรถรับส่งเข้ามาในเมืองให้กับผู้ชุมนุม แต่ถ้าผู้ชุมนุมยังยืนยันที่จะนำรถเข้ามา และภาครัฐเห็นว่ามีการกีดขวางการจราจรก็จะใช้รถยกหรือรถลาก เพื่อนำรถของผู้ชุมนุมออกจากผิวการจราจร
นายสุเทพ กล่าวว่า คตม.ยังเห็นว่าการเคลื่อนไหวของ นปช.แตกแยกเป็นหลายกลุ่ม ซึ่งการข่าวประเมินว่าหลายกลุ่มมีพฤติการณ์ส่อไปในทางรุนแรง โดยอาจมีการขว้างระเบิดใส่สถานที่เอกชน หรือบางกลุ่มคิดจะมีการปิดล้อมสถานที่ราชการหรือบ้านพักของบุคคลสำคัญ ซึ่ง คตม.ยืนยันว่าได้ปรึกษากับศาลปกครอง เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดในระหว่างการชุมนุม จะไม่ปล่อยให้มีการทำผิดกฎหมาย
และในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ คตม.ได้มอบหมายให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะทูตต่างประเทศในวันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับมาตรการของรัฐที่จะรับมือการชุมนุม เพื่อให้ทูตนำไปแจ้งกับประเทศของตัวเองต่อไป
ส่วนจะมีการประกาศวันหยุดราชการในสัปดาห์หรือไม่หากมีการชุมนุมยืดเยื้อ นายสุเทพ กล่าวว่า จะมีการประเมินสถานการณ์วันที่ 13-14 มี.ค.ก่อน ส่วนที่จะประกาศบังคับใช้กฎหมายถึงวันที่ 23 มี.ค.ก็เป็นการเผื่อเอาไว้หากมีการปักหลักชุมนุมยืดเยื้อถึง 7 วัน
สำหรับกรณีคลังแสงของทหารที่ถูกงัดใน จ.พัทลุงนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประเมินว่าจะเชื่อมโยงกับการชุมนุมใหญ่ของนปช.หรือไม่ แต่ยืนยันได้ว่าภายใน 3-4 วันจะต้องมีผู้รับผิดชอบมาชี้แจง ซึ่งก็ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดตรวจค้นอาวธทุกเส้นทางเพื่อป้องกันเหตุร้าย
นอกจากนี้ นายสุเทพ ยังประกาศต่อหน้าผู้นำเหล่าทัพในระหว่างแถลงข่าว โดยยืนยันว่าทหารจะไม่มีการปฏิวัติถึงแม้จะเกิดกรณีที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
"ผมตอบต่อหน้าทุกท่านที่นั่งอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็ฯ ผบ.ทบ., ผบ.ทร. และ ผบ.ทอ. ไม่มีปฏิวัติแน่นอน ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจได้"นายสุเทพ กล่าว