นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการติดตามแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางด้านการเกษตรอันสืบเนื่องมาจากภัยแล้งว่า ด้วยปรากฏว่าขณะนี้ได้มีปัญหาภัยแล้งเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งรวม 36 จังหวัด 277 อำเภอ 1,874 ตำบล 13,975 หมู่บ้าน ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นพื้นที่ซึ่งมีปัญหาภัยแล้งโดยทั่วไป และมีผลกระทบทางด้านการเกษตรรวมอยู่ด้วย ซึ่งในเบื้องต้นจากรายงาน ณ วันที่ 5 มีนาคม 2553 ปรากฏว่ามีพื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายจากภัยแล้งเป็นพื้นที่รวม 118,000 ไร่เศษ และมีปัญหาด้านปศุสัตว์ที่ประสบภัยอีกบางส่วน
ทั้งนี้ นายสวัสดิ์ วัฒนายากร องคมนตรีได้เชิญผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือวาระเร่งด่วน และรับทราบพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับเรื่องปัญหาการขาดแคลนน้ำ ในวันที่ 9 มีนาคม 2553 ซึ่งตนได้ร่วมหารือเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวด้วยตัวเอง และได้สั่งการให้ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัด ซึ่งได้จัดตั้งมาก่อนแล้วตามแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรเข้าไปตรวจสอบ ติดตามในทุกจังหวัด ทุกอำเภอ ทุกตำบลว่ามีปัญหาภัยพิบัติทางด้านการเกษตรที่เกิดจากภัยแล้งเป็นจำนวนพื้นที่มากน้อยอย่างไร รวมทั้งด้านปศุสัตว์และด้านประมงด้วย โดยมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเขตพื้นที่ดังกล่าวกำกับดูแล ในเบื้องต้นให้ดำเนินการช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่โดยเร่งด่วนในทันที
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้นำข้อมูลและปัญหาภัยพิบัติทางด้านการเกษตรที่เกิดจากภัยแล้งของแต่ละจังหวัดที่ประสบปัญหาภัยแล้ง มาเสนอในการประชุมคณะอนุกรรมการวางแผนและติดตามการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2553 เพื่อการบริหารจัดจัดการในภาวะฉุกเฉิน ตลอดจนการช่วยเหลือและบรรเทาความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติทางด้านการเกษตร โดยมีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้มีการประชุมขึ้นเป็นการด่วน ในวันที่ 15 มีนาคม 2553 ที่จะถึงนี้ เพื่อจะได้ดำเนินการมาตรการช่วยเหลือตามแผนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และรัฐบาลต่อไป