นายกฯตรวจภัยแล้งอุดรฯ นปช.ระดมพลแดงอีสานตามติด

ข่าวทั่วไป Monday March 22, 2010 09:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

  • ด้านความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรีวันนี้ ออกเดินทางพร้อมคณะจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อเดินทางไปตรวจสถานการณ์ภัยแล้งที่ จ.อุดรธานี ซึ่งทันทีที่กลุ่มนปช.ทราบข่าว ก็ได้ประกาศผ่านเวทีปราศรัยใหญ่ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศให้กลุ่มแนวร่วมที่ จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย ส่งผู้ชุมนุมไปรวมตัวกันเพื่อติดตามนายกรัฐมนตรี
  • จับตาการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง ว่าจะหาข้อสรุปอย่างไรต่อแนวทางการหาทางออกให้กับปัญหาบ้านเมืองในขณะนี้ ซึ่งล่าสุดกลุ่มเสื้อแดงยังคงยืนยันว่าจะเจรจาก็ต่อเมื่อฝ่ายรัฐบาลต้องให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนเจรจากับกลุ่มเสื้อแดงเท่านั้น
  • ความเคลื่อนไหวของ นปช.วันนี้ จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ "ตาต่อตา เต้นท์ต่อเต้นท์" โดยจะส่งผู้ชุมนุมไปตั้งเต้นท์ประกบกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ตั้งเต้นท์ประจำการดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่รอบบริเวณการชุมนุม พร้อมขอเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นกำลังพลที่ปราศจากอาวุธจริงหรือไม่ และหากพบว่ามีอาวุธก็จะแจ้งความดำเนินคดีทันที
  • ยังต้องติดตามความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนกรณีคนร้ายยิงจรวดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม แต่พลาดเป้าไปโดนสายไฟฟ้าในซอยแพร่งภูธร เขตพระนคร ซึ่งล่าสุดกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยได้ และนำรถกระบะคันที่คนร้ายก่อเหตุแล้วนำไปจอดทิ้งไว้ไปตรวจพิสูจน์หลักฐานแล้ว นอกจากนี้ยังมีกรณีเหตุลอบยิงระเบิดเข้าไปยังที่ทำการใหม่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ถ.สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ว่าจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) แถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรรอบที่ 1 ที่อาคารสำนักงานใหญ่ ธ.ก.ส.
  • คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นัดประชุมด่วน หลังถูกคนร้ายยิงระเบิดใส่ที่ทำการแห่งใหม่ ขณะที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ก็จะประชุมประเมินสถานการณ์กันรายวันในช่วงเวลา 10.00 น.
  • กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวเปลือกรอบที่ 1 และรอบที่ 2 ประจำวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2553 เพื่อใช้ในการจ่ายเงินชดเชยแก่เกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2552/53 ระหว่างวันที่ 22-28 มีนาคม ดังนี้ รอบที่ 1 ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,006 บาท อัตราชดเชย ตันละ 994 บาท , ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 10,317 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 10,374 บาท

รอบที่ 2 ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,006 บาท อัตราชดเชย ตันละ 994 บาท , ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 10,317 บาท อัตราชดเชย ตันละ 683 บาท , ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 10,374 บาท

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เพิ่มราคารับซื้อข้าวเปลือกอีก 200 บาทต่อตัน เพื่อให้เกษตรกรขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น โดยหากยังไม่สามารถมีการประชุมได้จะขอมติผ่านหนังสือเวียนแทน คาดว่า เมื่อมีมติแล้ว น่าจะรับซื้อในอัตราเพิ่มขึ้นได้ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ