สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,360 คน ระหว่างวันที่ 25-27 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้สรุปเหตุระเบิดในพื้นที่กทม.และต่างจังหวัดกว่า 20 ครั้งในรอบ 1 เดือน ถือเป็นความหนักใจของศอ.รส.อย่างมาก โดยเฉพาะกทม. ที่มีพื้นที่กว้าง ป้องกันได้ยาก ทำให้รัฐบาลต้องขยายเวลาการประกา ศพ.ร.บ.ความมั่นคงต่อไป เพื่อให้ตำรวจและทหารทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีเหตุร้ายเกิดขึ้นรายวัน จากสถานการณ์นี้จึงถูกมองว่าการดูแลเฝ้าระวัง ไม่ใช้หน้าที่ของตำรวจหรือทหารเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของทุกคนด้วย ซึ่งร้อยละ 51.44 คิดว่าสาเหตุของการระเบิดมาจากการต้องการสร้างสถานการณ์ให้บ้านเมืองดูวุ่นวายปั่นป่วน และเป็นการขู่เตือนรัฐบาล อีกร้อยละ 42.23 ระบุว่าประชาชนสามารถช่วยเป็นหูเป็นตา ดูแลสอดส่องสิ่งที่ไม่ชอบมาพากลหรือสิ่งผิดปกติได้
ขณะที่ร้อยละ 30.21 เห็นว่าเหตุระเบิดที่เกืดขึ้นกว่า 20 ครั้งในพื้นที่กทม.และต่างจังหวัด สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชน เกรงว่าจะได้รับอันตรายจากเหตุระเบิด จึงต้องระมัดระวังมากขึ้นส่วนร้อยละ 30.62 คิดว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของรัฐบาล และร้อยละ 48.07 รู้สึกไม่แน่ใจในเรื่องเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมีผู้ก่อการร้ายจากภาคใต้เกี่ยวข้องด้วย เพราะบ้านเมืองในวันนี้วุ่นวาย แบ่งเป็นหลายขั้ว แถมข้อมูลข่าวสารถูกปล่อยมาหลายกระแสจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ร้อยละ 40.21 อยากให้รัฐบาลและศอ.รส. เพิ่มกำลังตำรวจและทหารตามจุดสำคัญๆ และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มมากขึ้น และร้อยละ 54.82 เห็นว่าสื่อมวลชนควรนำเสนอข่าวเหตุระเบิดอย่างเป็นกลาง ตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง