นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการประกาศพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พบว่าขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 19,704 หมู่บ้านในพื้นที่ 53 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 16 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ภาคกลาง 8 จังหวัด ภาคตะวันออก 7 จังหวัด และภาคใต้ 7 จังหวัด
กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจากแผนปฏิบัติการในการให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งตามคำจำเป็นเร่งด่วน และคำร้องขอจากแต่ละจังหวัด ใน 5 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ทั้งหมด 1,200 เครื่อง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 270 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 330 เครื่อง ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก 365 เครื่อง และ 180 เครื่อง โดยขณะนี้ได้ให้ความช่วยเหลือแล้วทั้งสิ้น 689 เครื่อง แบ่งเป็น ในพื้นที่ภาคเหนือ 239 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 246 เครื่อง ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันตก 171 เครื่อง และภาคใต้ 33 เครื่อง
2.รถบรรทุกน้ำ เพื่อช่วยเหลือการอุปโภค-บริโภคในช่วงฤดูแล้งที่เตรียมไว้ประมาณ 300 คัน แบ่งเป็น ภาคเหนือ 55 คัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 90 คัน ภาคตะวันออกและตะวันตก 114 คัน และภาคใต้ 36 คัน ขณะนี้ได้มีการจัดส่งให้ความช่วยเหลือแล้ว 12 คัน
3. การสนับสนุนพืชอาหารสัตว์ ได้มีการเตรียมการสนับสนุนอย่างพอเพียงโดยขณะนี้ได้ให้การสนับสนุนแล้วจำนวน 81.8 ตัน ทั้งนี้ จากมาตรการเตรียมการต่างๆ ข้างต้น ในส่วนท้องถิ่นใดที่ประสบปัญหาภัยแล้ง สามารถขอความช่วยเหลือจากมาตรการดังกล่าวได้ และตามที่กระทรวงเกษตรฯ ได้มีแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องยู่แล้วแต่เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตรได้ขยายพื้นที่ไปอย่างกว้างขวาง
ดังนั้น เพื่อเป็นการเร่งให้ความช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ กระทรวงเกษตรฯจึงจัดประชุมชี้แจงการดำเนินการตามนโยบายแก่เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรระดับจังหวัด ในวันที่ 31 มีนาคม 2553 เพื่อหารือและหาข้อสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงาน ให้เป็นไปตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร
นอกจากนี้ จากข้อบังคับและกฎระเบียบต่างๆ ซึ่งยังคงเป็นอุปสรรคในการดำเนินการในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย จึงได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร รวบรวมปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน เพื่อนำเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเพื่อทราบ และหาแนวทางแก้ไขต่อไป