ผู้เชี่ยวชาญจีนเปิดเผยว่า การเหยียดเพศหญิงทำให้สัดส่วนประชากรชายและหญิงในจีนขาดสมดุล โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า สัดส่วนเด็กแรกเกิดเพศชายต่อเพศหญิงอยู่ที่ 119.45 คนต่อ 100 คนในปี 2552
ศจ.ไจ๋ เจินหวู คณบดีวิทยาลัยสังคมวิทยาและประชากรจากมหาวิทยาลัย Renmin University of China ในปักกิ่ง กล่าวว่า การเหยียดเพศหญิงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว เนื่องจากวัฒนธรรมจีนชอบลูกชายมากกว่าลูกสาว เพราะลูกสาวจะต้องออกจากบ้านเมื่อแต่งงานมีครอบครัว ทำให้พ่อแม่ไม่มีใครคอยดูแลเมื่อแก่ชรา
นอกจากนั้นเทคโนโยอัลตร้าซาวด์ดูเพศเด็กในครรภ์ยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้สัดส่วนเพศขาดความสมดุล และแม้ว่าทางการจะสั่งห้ามการอัลตร้าซาวด์เพื่อดูเพศเด็ก แต่ก็ยังมีการลักลอบทำโดยแพทย์บางคนในโรงพยาบาลขนาดเล็กหรือแม้แต่ที่บ้านของแม่เด็กเอง
ศจ.หยวน ซิน ผู้อำนวยการสถาบันประชากรและการพัฒนาจากมหาวิทยาลัย Nankai University ในเทียนจิน กล่าวว่า การเปลี่ยนทัศนคติไม่ให้ดูถูกเพศหญิงจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้
"ผู้หญิงในจีนอยู่ในสภาพที่ด้อยกว่าผู้ชายแทบทุกด้าน ทั้งความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน บทบาททางการเมือง และชีวิตครอบครัว ดังนั้นหากสภาพทางสังคมของผู้หญิงดีขึ้น พ่อแม่ก็จะรู้สึกดีขึ้นที่ได้เลี้ยงลูกสาว" เขากล่าว
ทั้งนี้ รายงานของ Chinese Academy of Social Sciences ซึ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วระบุว่า ชายชาวจีนซึ่งอยู่ในวัยแต่งงานจะมีจำนวนมากกว่าผู้หญิงในวัยเดียวกันถึง 24 ล้านคนในปี 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน