นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) แสดงความเป็นห่วงต่อการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อจะสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มเสื้อแดง และขอให้รัฐบาลดำเนินการอย่างระมัดระวัง อย่าให้เกิดการสูญเสียหรือเลือดตกยางออก ไม่เช่นนั้นรัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
สำหรับกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ว่าให้เวลารัฐบาลยุบสภาภายใน 2 เดือนจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ทุกอย่างอยู่ที่รัฐบาลต้องมีความจริงใจในการประกาศโรดแมพและต้องหารือระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมนั้น พรรคประชาธิปัตย์ต้องแสดงความจริงใจด้วยการขออนุมัติจากที่ประชุมพรรค เพื่อให้เป็นมติพรรคด้วย
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เสนอให้ 4 อดีตนายกรัฐมนตรี หารือแก้ปัญหาวิกฤติบ้านเมืองนั้น นายบรรหาร ระบุว่า ได้ตอบกรรมการสิทธิฯ ไปแล้วว่าจะว่างหลังเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งส่วนตัวมองว่าทางออกที่ดีที่สุดรัฐบาลควรประกาศโรดแมพ 9 เดือน ตามที่เคยระบุว่าจะมีแผนยุบสภาให้ชัดเจน ระบุขั้นตอนว่าแต่ละช่วงเวลาจะทำไรบ้าง หากรัฐบาลให้ความชัดเจน ประชาชนก็จะให้กำลังใจ ช่วยกันติดตาม
พร้อมเชื่อว่าการยุบสภาทันทีไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หากการเลือกตั้งใหม่ยังมีองค์กรอิสระเดิมอยู่ ก็อาจมีการทำ 2 มาตรฐานอีกได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องให้ความชัดเจน และคนเสื้อแดงต้องอดใจรอให้มีการแก้ไขกติกา หากรัฐบาลให้ความจริงใจเชื่อว่าทุกอย่างจะดำเนินการให้เสร็จ โดยใช้เวลารวดเร็วกว่า 9 เดือนก็ได้
"ในฐานะผู้สังเกตการณ์ที่ผ่านมาเคยเสียความรู้สึกมาแล้ว เมื่อรัฐบาลไม่ได้ทำตามที่บอกไว้ หากรัฐบาลทำตามโรดแมพ รัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ครบเทอม รัฐบาลจึงต้องมีความจริงใจ เมื่อดำเนินการทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้วค่อยยุบสภาให้ประชาชนตัดสิน รัฐบาลต้องทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเกิดความมั่นใจ หากรัฐบาลยังไม่ทำอะไร พรรคชาติไทยพัฒนาคงคิดจะทำอะไรสักอย่าง แต่ยังบอกไม่ได้เวลานี้" นายบรรหาร กล่าว