ศ.น.พ.ย์อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางรพ.จุฬาฯ ไม่เคยร้องขอหรืออนุญาตให้กำลังตำรวจ กำลังทหารหรือผู้ใดก็ตามมาอยู่อาศัยหรือซ่อนตัวในอาคารภายในโรงพยาบาลอย่างเด็ดขาด และที่ผ่านมาได้ยึดหลักกาชาดสากลมาตลอด โดยยึดความเป็นกลาง
ทั้งนี้ รพ.จุฬาฯ ต้องขอโทษมายังประชาชน ผู้ป่วยและญาติ ที่ทางโรงพยาบาลไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยนอกตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. 2553 เป็นต้นไปจนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย โดยจะงดรับผู้ป่วยใหม่ งดการผ่าตัด ยกเว้นกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย บุคลากร และเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม รพ.จุฬาฯ ยังคงให้บริการห้องฉุกเฉิน แต่มีความจำเป็นต้องย้ายที่ปฏิบัติการไปที่ตึกจงกลนี ชั้นล่าง
รายงานข่าว ระบุว่า บรรยากาศภายในรพ.จุฬาฯ ยังคงมีการทยอยเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทางกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะไม่เดินทางมาที่โรงพยาบาลแล้วก็ตาม โดยเป็นการย้ายผู้ป่วยบางส่วนไปยังโรงพยาบาลศิริราช และบางส่วนย้ายไปโรงพยาบาลเอกชนระยะหนึ่งก่อนจะกลับมารักษาต่อ และได้มีการย้ายที่ประทับรักษาพระอาการของสมเด็จพระสังฆราชมาอีกฝั่งอาคารด้วย