นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนได้มีการแนวทางแก้ไขปัญหาการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ยึดพื้นที่สี่แยกราชประสงค์แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างปฏิบัติการเพื่อให้เกิดผลกระทบข้างเคียงน้อยที่สุด และในวันนี้ที่จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดพิเศษ เพื่อจะพิจารณากฎหมายที่จะเข้าไปบังคับกับกลุ่มผู้ชุมุนมดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ขณะนี้ ตนไม่คิดว่าจะถึงขั้นต้องประกาศกฎอัยการศึก
"พี่น้องประชาชนถามมาว่าพื้นที่ราชประสงค์เมื่อไรจะทำอะไร เมื่อไรจะตัดสินใจ ต้องตอบว่า ตัดสินใจแล้วอยู่ในขั้นตอนปฏิบัติ แต่การตัดสินใจที่จะทำ ทำแล้ว ต้องสำเร็จ ทำแล้วต้องให้เกิดผลกระทบข้างเคียงน้อยที่สุด ทำแล้วต้องสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน เบ็ดเสร็จอย่างแท้จริง ที่ต้องใช้เวลา ต้องทำการลิดรอน เพื่อให้การเข้าปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพและมีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด"นายอภิสิทธิ์ กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ผ่านสถานีโทรทัศน์
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เจ้าหน้าที่ได้สกัดกั้น หรือตั้งด่านไม่ให้มีการขนอาวุธ หรือ ไม่ให้ส่งกำลังบำรุงซึงมีธุรกิจเกี่ยวข้อง ซึ่งก็กำลังดำเนินคดี และจะมีการเชื่อมโยงกฎหมายต่างๆมาใช้อย่างเด็ดขาด รวมทั้ง ควบคุมการใช้สื่อวิทยุชุมชนหรือสถานีโทรทัศน์ที่จะใช้ในการปลุกระดมประชาชนพื้นที่ภูมิภาค
นอกจากนี้ จะมีการประชุมคณะรัฐมตรีวันนี้ซึ่งเป็นนัดพิเศษ เพื่อมาดูแล เรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ในการใช้กำลังของทหาร เข้าไปปฏิบัติการ ในพื้นที่ เพื่อความรัดกุมของกฎหมายทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ได้มีการพูดไปถึง การประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งไม่ใช้อำนาจของรัฐบาล แต่เป็นอำนาจของกองทัพ ที่จะเป็นผู้ประกาศและแจ้งให้รัฐบาลทราบ ถ้ากองทัพเห็นว่ามีความจำเป็น แต่เท่าที่ตนทราบและหารือกัน ก็ไม่ได้คิดว่าการประกาศกฎอัยการศึกจะแก้ไขปัญหาสถานการณ์ได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าว่า การดำเนินการขอคืนพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ ยอมรับว่าต้องใช้เวลา และวิธีการปฏิบัติ ต้องเป็นแนวทางที่ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ ที่สำคัญ แนวทางการดำเนินการต้องสำเร็จ
"ขอให้ความมั่นใจว่าการปฏิบัติการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ผมเข้าใจดี ทุกวันที่ผ่านไปมีผู้เดือดร้อน ทุกวันที่ผ่านไปมีคนรู้สึกว่า มันไม่เป็๋นธรรมกับพี่น้องประชาชน ธรรมดา พี่น้องประชาชนที่บริสุทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เหล่านี้ ได้รับกระทบ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ หรือผลกระทบด้านจิตใจ แต่ผมขอย้ำว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการทำนั้น ว่าเราต้องอดทนไม่จำนนต่อข้อเรียกร้องที่มีการใช้วิธีการ ข่มขู่คุกคามไปจนถึงการก่อการร้าย"
"หลายคนบอกว่าไม่สามารถอดทนได้แล้ว หลายคนเข้าใจ ว่าทำไมหลายเรื่องที่เราดำเนินการอยู่ทำไมถึงต้องใช้เวลา ความรับผิดชอบทั้งหมดอยู่ที่ผม และตัดสินใจแล้วว่าแนวทางจะทำอะไร ขณะนี้กำลังปฏิบัติสู่เป้าหมาย"นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการทั้งหลาย และการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ว่าคำตอบทางการเมืองจะเป็นอย่างไร ความผิดทางอาญาก็ยังคงอยู่ และจะมีการดำเนินคดี แม้เหตุการณ์จะคลี่คลาย
"เมื่อบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติ คำตอบทางการเมืองในเรื่องของข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับการยุบสภา เรื่องของกติกาทางการเมืองนั้น เร็วๆนี้ ผมคิดว่า ผมจะสามารถประกาศได้ว่า เจตนารมย์ของรัฐบาลนั้น เป็นเช่นใด" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า หากเหตุการณ์การชุมนุมยุติลง คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นได้ในไตรมาส 3 หรือไตรมาส 4 ซึ่งนักลงทุนต่างประเทศก็ยังมีความสนใจเข้าลงทุนในไทยอยู่