นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันของคณะผู้บริหาร ได้มีมติตามเดิมที่จะไม่เปิดให้บริการ จนกว่าผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะยอมถอยรนแนวกั้น ตั้งแต่แยกศาลาแดงจนถึงแยกสารสิน แล้วปล่อยให้ถ.ราชดำริ เป็นพื้นที่โล่ง เพื่อความปลอดภัย และความสบายใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตลอดจนผู้ป่วย เนื่องจากตึกภปร.เป็นอาคารสูง 18 ชั้น มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานกว่า 1,000 คน และมีผู้ป่วยนอกเข้ารับบริการกว่า 4,000 คนต่อวัน
ซึ่งหากเกิดเสียงดังคล้ายเสียงระเบิดเกิดขึ้น อาจเกิดความโกลาหลได้ ทางเจ้าหน้าที่ทุกคนจึงต้องการให้ถ.ราชดำริ เป็นพื้นที่เซฟตี้โซนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม หากโรงพยาบาลจุฬาฯ ยังไม่สามารถให้บริการได้ อาจมีการให้บริการทางการแพทย์นอกสถานที่ ซึ่งขณะนี้ได้มองไว้ 2-3 แห่ง อาทิ โรงพยาบาลยาสูบ ศูนย์บริการโลหิตสภากาชาดไทย แต่ศักยภาพคงไม่สามารถเทียบเท่ากับการเปิดให้บริการที่โรงพยาลจุฬาฯได้ ทั้งนี้ ตนเองขอยืนยันอีกครั้งว่า สิ่งที่ทำทั้งหมดไม่ใช่เพื่อโรงพยาบาลจุฬาฯ แต่เพื่อผู้ป่วยและประชาชนทุกคน
นพ.อดิศร กล่าวด้วยว่า คงไม่เหมาะหากตนเองจะเข้าร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและแกนนำนปช.เพื่อขอให้เปิดทางให้ เนื่องจากหน้าที่ของแพทย์มีหน้าที่ให้บริการประชาชน ไม่ใช่มีหน้าที่เจรจาทางการเมือง