พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงว่า ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้ ศอฉ.จะดำเนินมาตรการกดดันกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการตัดน้ำประปา-กระแสไฟฟ้า-สัญญาณโทรศัพท์ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคอื่น ๆ ที่จะงดให้บริการทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า เรือโดยสารคลองแสนแสบ เพื่อเป็นการปิดการเดินทางเข้า-ออกจากบริเวณที่ชุมนุมและส่งกำลังบำรุง
ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายวันนี้ ศอฉ.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว และจะมีการจัดทำเอกสารประชาสัมพันธ์ให้กับทางผู้ชุมนุมเสื้อแดงรับทราบด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. จะเป็นประธานประชุมร่วมผู้ว่าราชการจังหวัด 38 จังหวัด เพื่อชี้แจงสถานการณ์ดังกล่าว
"มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการกดดันพื้นที่การชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบ โดยเริ่มต้นตั้งแต่วิธีการที่ไม่ใช้กำลังก่อน ด้วยการกำหนดตัดน้ำไฟ สาธารณูปโภค โทรศัพท์ การเดินทางในลักษณะของการใช้การบริการสาธารณะ รถเมล์ รถไฟฟ้า เส้นทางน้ำในคลองแสนแสบ ในบริเวณพื้นที่ชุมนุมทั้งหมด จะมีการปิดเส้นทางเข้า-ออก เส้นทางการส่งกำลังบำรุงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์"พ.อ.สรรเสริญ กล่าว
ดังนั้น ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม ซึ่งอาศัยอยู่ภายในบริเวณพื้นที่การชุมนุม หรือบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงอาจจะต้องได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจที่ตั้งด่านอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่การชุมนุมจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ในการที่จะผ่านเข้า-ออก อาจจะต้องมีการทำเอกสารเป็นรายบุคคล โดยมาตรการต่าง ๆ ดังกล่าวจะเริ่มเร็วที่สุดตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะได้มีการเชิญหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการที่กำหนดมาหารือในรายละเอียดข้อปฏิบัติในวันนี้
โฆษก ศอฉ.กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่กลุ่มผู้ชุมนุมนปช. ได้เริ่มชุมนุมในพื้นที่ต่าง ๆ ศอฉ. ได้ปฏิบัติงานควบคู่กับรัฐบาลมาโดยตลอด พยายามทุกวิถีทางที่จะนำความสงบกลับมาสู่บ้านเมืองด้วยวิธีการในลักษณะของการไม่ใช้กำลังเกินความจำเป็น มีการขอคืนพื้นที่บางส่วน มีการบังคับใช้กฎหมายโดยใช้มาตรการจากขั้นเบาไปหาหนัก
และได้มีการชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมและประชาชนทราบอยู่ตลอดเวลาว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย รัฐธรรมนูญไม่คุ้มครอง เนื่องจากเป็นการชุมนุมที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนโดยทั่วไป ทำให้เจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่าง ๆ ปฏิบัติภารกิจด้วยความยากลำบาก มีการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด และที่สำคัญคือมีกลุ่มก่อการร้าย มีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวปะปนอยู่ในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งพื้นที่การชุมนุมที่ราชประสงค์ขณะนี้เป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย
ศอฉ.ได้พยายามชี้แจงประชาชนมาโดยตลอด จวบจนกระทั่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแผนปรองดองมีข้อความสำคัญ 5 ประการ ที่ในชั้นต้นเข้าใจว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งถือว่ามีสัญญาณที่ดีในระยะแรก ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความรู้สึกสบายใจขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ในที่สุดวันนี้สังคมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามตั้งเงื่อนไขรายวัน บิดพลิ้วเรื่องต่าง ๆ เพียงเพื่อที่จะประวิงเวลาออกไป แม้ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วก็ตาม แต่แกนนำ นปช.ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับการดำเนินการใด ๆ
"ต้องเรียนซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า มาตรการที่เราได้เริ่มต้นบังคับใช้กฎหมาย และกดดันพื้นที่การชุมนุมมอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไปนั้น เป็นความพยายามอย่างที่สุดแล้ว ที่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย เพราะฉะนั้นมาตรการในขั้นต้น เรื่องของการตัดการส่งกำลังบำรุง ปิดเส้นทางการเข้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ จำกัดการใช้บริการสาธารณูปโภคทั้งหลาย ถือว่าเป็นมาตรการในขั้นเริ่มต้นของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มรูปแบบในวันนี้ มั่นใจว่าทางศอฉ. จะสามารถควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ส่วนมาตรการที่จะมีต่อไปหลังจากนี้ ยังขอไม่เรียนให้ทราบ ขอแจ้งในขั้นต้นก่อน" โฆษกศอฉ. กล่าว