นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนย้ำถึงความจำเป็นในการหาคำตอบของวิกฤตการณ์ทางสังคม เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกรณีคนร้ายไล่แทงเด็กนักเรียนในโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งของมณฑลชานซี จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 9 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็กนักเรียน 7 รายและผู้ใหญ่ 2 ราย
หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ รายงานอ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีจีนว่า นอกเหนือจากการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามสถานศึกษาและโรงเรียนอนุบาลแล้ว นายเหวินยังให้คำมั่นที่จะแก้ปัญหาความรุนแรงทางสังคมที่รากเหง้า และแก้ปัญหาข้อพิพาทของกลุ่มคนระดับรากหญ้า ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญใหญ่หลวงของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องให้ความสนใจต่อเหตุผลเบื้องลึกของปัญหาดังกล่าว รวมถึงต้องหามาตรการรับมือปัญหาความขัดแย้งในสังคม แก้ไขข้อพิพาทและให้ความเสมอภาคต่อประชาชนทั่วไปมากขึ้น
โดยเหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดเหตุคนร้ายแทงเด็กนักเรียนจนเสียชีวิตถึง 8 รายที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในมณฑลฟูเจียนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และนับจากนั้นเป็นต้นมาจีนได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สื่อรายงานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุไล่แทงนักเรียนเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเป็นชายวัย 48 ปี ชื่อนายอู๋ หวงหมิง ซึ่งการก่อเหตุดังกล่าวอาจเป็นผลจากความขัดแย้งที่เขาเคยให้นายอู๋ หวงหยิง ครูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลเอกชนเช่าบ้านเพื่อใช้เป็นโรงเรียนสอนเด็กอนุบาล
ด้านรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนอนุบาล รวมถึงโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล โดยในกรุงปักกิ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2,000 นายกระจายกำลังไปยังสถานศึกษาและโรงเรียนอนุบาลกว่า 500 แห่ง
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญได้ชี้ถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหาสังคม หลังเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นไล่เลี่ยกันในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยผู้ก่อเหตุมักเป็นผู้ตกงานเพศชายวัย 30-40 ปี ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวมีแรงจูงใจมาจากปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม สำนักข่าวเกียวโดรายงาน