รายงานข่าวจากธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 พ.ค. 2553 ธนาคารประกาศปิดสาขาเพิ่มเติมรวม 14 แห่ง โดยลูกค้าสามารถใช้บริการทางการเงินที่สาขาสำรองตามที่ธนาคารกำหนดให้ได้ตามปกติ ดังนี้ 1.สาขาสยามสแควร์ ใช้บริการได้ที่สาขาจารุเมือง 2.สาขาใบหยกประตูน้ำ ใช้บริการได้ที่สาขานางเลิ้ง 3. สาขาประตูน้ำ ใช้บริการได้ที่สาขาเจริญผล 4.สาขาราชปรารภ ใช้บริการได้ที่สาขาสุทธิสาร 5.สาขาเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่า ใช้บริการได้ที่สาขาสีลม (ถนนปั้น) 6. สาขาราชดำริ ใช้บริการได้ที่สาขาสีลม (ถนนปั้น) 7. สาขาธนิยะ ใช้บริการได้ที่สาขาสี่พระยา
8. สาขาชาญอิสสระทาวเวอร์ (พระราม 4) ใช้บริการได้ที่สาขาบางโคล่ 9.สาขาเพลินจิตเซ็นเตอร์ ใช้บริการได้ที่สาขาย่อยทองหล่อ 10.สาขานานาเหนือ ใช้บริการได้ที่สาขาเอกมัย 11. สาขาคลองเตยใช้บริการได้ที่สาขากล้วยน้ำไท 12.สาขาย่อยถนนวิทยุ (ตึกออลซีซันส์เพลส) ใช้บริการได้ที่สาขากล้วยน้ำไท 13.สาขาอนุสาวรีย์ใช้บริการได้ที่สาขาตลาดหมอชิต และ 14. สาขาสามย่านใช้บริการได้ที่สาขาหัวลำโพง
และธนาคารยังคงปิดการให้บริการสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ สาขาใบหยกประตูน้ำ และสถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารยังสามารถเปิดให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าได้ตามปกติโดยลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากธนาคารได้ดำเนินการปรับโอนระบบการให้บริการทั้งหมดจากอาคารสำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ไปยังอาคารสวนมะลิ ถนนเฉลิมเขตร์ 4 ตามแผนรองรับความต่อเนื่องทางธุรกิจของธนาคาร (Business Continuity Plan : BCP) โดยเฉพาะหน่วยงานที่มีความสำคัญในงานด้านการบริการลูกค้า และหากสถานการณ์คลี่คลายธนาคารจะดำเนินการปรับระบบการให้บริการทั้งหมดกลับไปยังสำนักงานใหญ่ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่เช่นเดิม
นอกจากนี้ ธนาคารประกาศปิดให้บริการเครื่องเบิกถอนเงินสด (เอทีเอ็ม) เป็นการชั่วคราวในบเริวณพื้นที่การชุมนุมทางการเมืองรวมจำนวน 33 เครื่อง เช่น สาขาราชดำริ สาขาสามย่าน สาขาสยามสแควร์ สาขาราชปรารภ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกสถานี สาขาซอยรางน้ำ ศูนย์การค้าอินทราสแควร์ สาขาเดอะ แพลทตินัม แฟชั่นมอลล์ สาขาคลองเตย สาขานานาเหนือ และสาขาธนิยะ เป็นต้น ส่วนตู้เอทีเอ็มในเขตพื้นที่อื่นยังสามารถใช้บริการได้ตามปกติ