น้ำมันที่รั่วไหลจากแท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon ของบริษัทบีพีในอ่าวเม็กซิโก ไหลเข้าไปในพื้นที่ชุ่มน้ำ (wetland) ในรัฐหลุยเซียน่าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบนิเวศและอุตสาหกรรมอาหารทะเลสหรัฐ
"นี่เป็นครั้งแรกที่มีน้ำมันไหลเข้ามาในพื้นที่ชุ่มน้ำมากขนาดนี้" บ๊อบบี้ จินดาล ผู้ว่าการรัฐหลุยเซียน่า กล่าวระหว่างการแถลงข่าว "เรารู้ว่ามีน้ำมันอีกมากที่กำลังจะไหลเข้ามาในพื้นที่นี้"
ผู้ว่าการรัฐหลุยเซียน่าเรียกร้องให้หน่วยวิศวกรรมกองทัพบกสหรัฐ (U.S. Army Corps of Engineers) อนุญาตเป็นการฉุกเฉินให้รัฐหลุยเซียน่าสามารถขุดลอกทรายจากเกาะสันดอนปิดกั้นอ่าว (barrier islands) เพื่อสร้างสันทรายป้องกันน้ำมันอีกชั้นหนึ่ง
การที่น้ำมันไหลเข้าสู่พื้นที่ชุ่มน้ำจะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสัตว์ป่า โดยเฉพาะนกกระทุงสีน้ำตาลซึ่งเป็นนกประจำรัฐหลุยเซียน่าและเพิ่งถูกถอนรายชื่อออกจากบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง เนื่องจากนกชนิดนี้จะดำลงไปในน้ำเพื่อหาอาหาร นอกจากนั้นยังมีสัตว์อีกอย่างน้อย 12 สายพันธุ์ที่อาจได้รับอันตราย ทั้งนก เต่าทะเล และวาฬหัวทุย
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีนกกระทุงสีน้ำตาลตายจากการรั่วไหลของน้ำมัน แต่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเตือนว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปหากน้ำมันไหลซึมไปถึงพื้นที่ทำรังและพื้นที่ป้อนอาหารลูกของนกกระทุงสีน้ำตาลบริเวณเรียบชายฝั่งและเกาะสันดอนปิดกั้นอ่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน