เจ้าหน้าที่ของจีนกล่าวในที่ประชุมคณะกรรมาธิการลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (เอ็มอาร์ซี) ซึ่งเปิดฉากขึ้นที่อ.หัวหินในวันนี้ว่า จากการวิเคราะห์พบว่า เขื่อนของจีนไม่มีความเกี่ยวข้องกับระดับน้ำที่ลดลงในแม่น้ำโขง
"สภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างมากในบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนล่างในขณะนี้เป็นต้นตอที่ทำให้น้ำเหือดแห้ง และทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงสายหลักลดลง" เฉิน หมิงจง รองผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างประเทศ ในสังกัดกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน กล่าวในวันแรกของการประชุม
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเฉินได้ชี้แจงกรณีที่มีหลายฝ่ายมองว่า การสร้างเขื่อนในจีนเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้ำในลุ่มน้ำโขงซึ่งเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดระดับลงจนส่งผลให้เกิดปัญหาภัยแล้งในกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงตอนล่าง ซึ่งประกอบด้วยกัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนาม
โดยผู้แทนจีนกล่าวว่า การสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำล้านช้างจะไม่ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมหรือปัญหาภัยแล้งแก่ประเทศที่อยู่ปลายน้ำ ในทางกลับกันเขื่อนดังกล่าวจะช่วยยกระดับความสามารถในการควบคุมน้ำท่วม บรรเทาปัญหาภัยแล้ง และเพิ่มประสิทธิภาพด้านการชลประทาน ตลอดจนการจัดสรรน้ำสำหรับประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่างได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ผู้แทนจีนยังได้กล่าวในที่ประชุมถึงปัญหาภัยแล้งรุนแรงที่กำลังสร้างความเสียหายให้กับภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะมณฑลยูนนานซึ่งได้รับผลกระทบหนักสุด
นายเฉินกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ พื้นที่เพาะปลูกที่ได้รับผลกระทบใน 5 มณฑลในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนนั้นกินอาณาบริเวณเพิ่มขึ้นเป็น 6,477,333 เฮกตาร์แล้ว นอกจากนี้ ภัยแล้งยังส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มขั้นรุนแรง
ทั้งนี้ บรรดานักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนกลุ่มเอ็นจีโอจากทั่วโลกได้มาร่วมการประชุมดังกล่าวซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลาสองวันที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่ออภิปรายประเด็นต่างๆเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำเอ็มอาร์ซี (MRC Summit) ครั้งที่ 1 จะเปิดฉากขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายนนี้ โดยมีผู้นำประเทศกัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนามเข้าร่วมการประชุม