กทม. เปิดศูนย์อำนวยการฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งกรุงเทพมหานครจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ

ศูนย์ฯ ดังกล่าวมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายอำนวยการ และผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม กทม. เป็นเลขานุการ, รองปลัดกรุงเทพมหานครสั่งราชการสำนักการโยธา เป็นประธานกรรมการด้านกายภาพ, รองปลัดกรุงเทพมหานครสั่งราชการสำนักอนามัย เป็นประธานกรรมการด้านสุขภาพ และรองปลัดกรุงเทพมหานครสั่งราชการสำนักพัฒนาสังคม เป็นประธานกรรมการด้านสังคม เพื่อให้การให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้โครงการ “ร่วมสร้างกรุงเทพฯ รวมกันเราทำได้" (Together We Can) พร้อมคืนรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ อีกครั้ง

พร้อมกันนี้ ได้จัดตั้งกองทุน “รวมกัน เราทำได้" พร้อมเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยศาลาว่าการกทม. ชื่อบัญชี “กองทุนรวมกัน เราทำได้ โดยกรุงเทพมหานคร" (Together We Can) เลขบัญชี 088 004 320 2 ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง โดยเชิญบุคคลภายนอก เข้ามาร่วมดูแลการเบิกจ่ายเงิน และบริหารงาน

สำหรับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง กทม. ได้เปิดรับลงทะเบียนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ สำนักงานเขตทั้ง 7 เขต ประกอบด้วย เขตราชเทวี บางรัก คลองเตย ปทุมวัน สาทร วัฒนา และดินแดง ระหว่างวันที่ 24-31 พ.ค.53 เวลา 08.00—17.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยในวันแรกของการเปิดรับลงทะเบียนฯ ณ สำนักงานเขตทั้ง 7 แห่ง ปรากฎว่ามีประชาชนมาลงทะเบียนรับความช่วยเหลือ รวมทั้งสิ้น 2,918 ราย

ส่วนประชาชนที่ลงทะเบียนกับ ศอฉ.ไว้เมื่อวันที่ 21—23 พ.ค.ที่ผ่านมา ศอฉ.จะสรุปและส่งข้อมูลให้กรุงเทพมหานครพิจารณาการจ่ายเงินให้ความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งกรุงเทพมหานครจะให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอัคคีภัย รายละ 10,000 บาท หากเอกสารครบถ้วนจะสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือได้ภายในวันที่ 3 มิ.ย.นี้

ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานครได้ขยายเวลาการชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน จาก 24 งวด เป็น 60 งวด ส่วนมาตรการภาษีอื่นๆ นั้น รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินการ ซึ่งกรุงเทพมหานครพร้อมรับนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกัน ธนาคารออมสินจะขยายวงเงินกู้ตามโครงการยิ้มสู้กู้สร้างอาชีพ จาก 1 แสน เป็น 2 แสนบาทต่อรายด้วย

สำหรับการช่วยเหลือในด้านต่างๆ กรุงเทพมหานครได้เร่งดำเนินการ โดยในเรื่องของความปลอดภัย ได้มอบหมายให้สำนักการโยธา เข้าตรวจสอบพื้นที่ อาคาร เพื่อประสานการดูแล ควบคุมพื้นที่ความปลอดภัย รวมถึงสำรวจความเสียหายของสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเร่งดำเนินการปรับปรุง

ด้านสุขภาพ กรุงเทพมหานครมีมาตรการเยียวยาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยจะมีการทำบุญ 5 ศาสนา ในวันพุธที่ 26 พ.ค.53 ตั้งแต่เวลา 06.30 น.และร่วมกับสภากาชาดไทยเปิดรับบริจาคโลหิต ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี พร้อมจัดงานมหกรรมด้านสุขภาพบนถนนสีลมในวันที่ 30 พ.ค.นี้

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้ประสานความร่วมมือกับภาคเอกชนในการเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทั้งบริเวณสีลม และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมบริเวณ ถ.ราชดำเนิน พื้นที่เขตดุสิต และพระนครได้ขายของ ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะปิดถ.สีลมในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ และบริเวณ ถ.บรรทัดทองเพื่อให้เป็นถนนคนเดิน รวมทั้งการเปิดเว็บไซต์เพื่อให้ค้าขายด้วยอีกด้วย

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เสนอความช่วยเหลือ โดยเตรียมพื้นที่ 11,724 ตารางเมตร เพื่อให้กรุงเทพมหานครจัดสรรพื้นที่ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเข้าทำการค้าขายบริเวณ จุฬาซอย 1-3 อาคารริมถนนอังรีดูนังต์ ลานจอดรถอาคารสยามกิจ และอาคารบายพาส โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ 85 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปรับปรุงพื้นที่ค้าขายให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน