นายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษก กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ สำนักการโยธา และสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย หรือ วสท.ได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีอาคารที่ถูกเพลิงไหม้เสียหาย จำนวน 28 อาคาร โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม 1.อาคารที่ได้รับความเสียหายมากหรือเสียหายทั้งหมด จำเป็นต้องรื้อถอน 2. อาคารที่เสียหาย ปานกลาง สามารถซ่อมแซมตามหลักวิศวกรได้ 3. อาคารที่เสียหายน้อย สามารถซ่อมแซมได้
พบว่า อาคารที่มีความเสียหายมากหรือเสียหายทั้งหมด ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 3 ระดับ มี 3 กลุ่มอาคาร คือ 1. ศูนย์การค้าเซน ที่เซ็นทรัลเวิล์ด บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งอาคารได้พังลงมาได้รับความเสียหายบางส่วน 2. ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ 3. โรงภาพยนต์สยามสแควร์
นายถนอม กล่าวว่า หลังจากที่ สำนักการโยธา และ วสท.ได้เข้าไปตรวจสอบอาคารแล้ว ได้แจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่ ประกาศให้เป็นพื้นที่อันตราย ห้ามเข้าห้ามใช้อาคาร หลังจากนั้น ทางเจ้าของอาคารจะได้จัดหาวิศวกรเข้าไปตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของตัวอาคารอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่า อาคารที่ได้รับความเสียหายดังกล่าว จะต้องรื้อถอนทั้งหมด หรือบางส่วน หรือ สามารถซ่อมแซมแก้ไขได้โดยหลักวิศวกร
ทั้งนี้ ยืนยันว่า กทม.ยังไม่ได้มีการออกคำสั่งให้มีรื้อถอนอาคารใดทั้งสิ้น เพียงแต่เป็นข้อสรุปความเสียหายเบื้องต้น ว่า มีอาคารใดบ้างที่เสียหาย เข้าข่าย จะต้องรื้อถอนทั้งหมดหรือบางส่วนและอาคารใดบ้างที่สามารถซ่อมแซมแก้ไขได้ตามหลักวิศวกร
ขั้นตอนหลังจากนี้ สำนักการโยธา กทม.วสท.จะต้องเข้าไปตรวจสอบอาคารอีกครั้งหนึ่ง หากได้ข้อสรุปอย่างไร จะแจ้งให้เจ้าของอาคารทราบและจัดหาวิศวกรมาตรวจสอบอาคารอีกครั้ง เพื่อยื่นเรื่องขออนุญาตรื้อถอนทั้งหมด หรือบางส่วน หรือ ปรับปรุงซ่อมแซมได้ตามหลักวิศวกร ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง โดยขณะนี้ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. และสำนักงานเขตได้ประกาศเขตพื้นที่เสี่ยงภัยห้ามเข้าห้ามใช้อาคาร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว