นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับอธิบดีอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ว่า ทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันเร่งดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกออกหมายจับในข้อหาก่อการร้ายกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
ทั้งนี้ ดีเอสไอจะออกหนังสือเวียนหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปทั่วประเทศ เพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมตัว ขณะที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย จะขอความร่วมมือไปยังประเทศต่างๆ เพื่อให้ทราบถิ่นที่อยู่ของผู้ต้องหา พร้อมทั้ง ประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เพื่อขอความร่วมมือจากตำรวจสากล(อินเตอร์โพล) ในการจับกุมตัว
ส่วนขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนถือเป็นดุลพินิจของประเทศต่างๆ ที่จะพิจารณาว่าจะส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้หรือไม่ โดยทางการไทยจะทำเรื่องขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดน รวมทั้งกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนสัญชาติเป็นมอนเตเนโกรนั้น เป็นเรื่องที่ประเทศเจ้าของสัญชาติจะเป็นผู้พิจารณา
สำหรับประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย ตามระเบียบสามารถขอความร่วมมือผ่านตำรวจสากลได้ โดยประเทศที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยไปพำนักล้วนเป็นประเทศสมาชิกของอินเตอร์โพลทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพื่อสอบปากคำพยานฝ่ายผู้ต้องหาเพื่อให้ความเป็นธรรม เนื่องจากหลักฐานก่อนหน้านี้มีเพียงฝ่ายของดีเอสไอเท่านั้น