นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เผยอาจมีการทบทวนแนวคิดในการจัดทำโครงการรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ(BRT) ในอนาคต หลังทดลองเปิดบริการเดินรถนำร่องในเส้นทางช่องนนทรี-ราชพฤกษ์ในวันนี้แล้วพบว่าเกิดปัญหาจราจรในเส้นทางดังกล่าวมากขึ้น
"โครงการในเส้นทางต่อไปอาจต้องมีการพิจารณาทบทวนใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการแย่งช่องทางจราจร" นายธีระชน กล่าว
รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า หลังจากหารือกับกองบังคับการตำรวจจราจร(บก.จร.) และ สน.ท้องที่ แล้วได้ข้อสรุปว่าจะยังไม่มีการตักเตือนหรือจับปรับผู้ที่นำยานพาหนะเข้าไปใช้ในช่องทางวิ่งของ BRT เนื่องจากต้องให้เวลาประชาชนปรับตัวอีกสักระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า สาเหตุที่ต้องดำเนินโครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการมาแล้วในสมัยของผู้บริหารชุดเดิมจึงจำเป็นต้องสานงานต่อไป
ด้านนายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม(KT) กล่าวว่า การเดินรถบีอาร์ทีพบว่ามีปัญหาเกิดจากรถประเภทอื่นเข้ามาวิ่งกีดขวางช่องจราจร โดยเฉพาะในช่วงจุดกลับรถบนถนนราชพฤกษ์ และมีรถกระจุกตัวบนสะพานพระราม 3 เนื่องจากประชาชนผู้ใช้เส้นทางยังไม่มีความเข้าใจในการช่องทางจราจร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถูกกดดันจากผู้ใช้รถจึงต้องปล่อยให้วิ่งเข้าไปช่องทางวิ่งของ BRT
"ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้การเดินรถบีอาร์ทีตลอดเส้นทางใช้เวลาทั้งสิ้น 80 นาที จากเดิมตั้งเป้าว่าจะใช้เวลาวิ่งเฉลี่ย 70 นาที นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านความชำนาญของผู้ขับรถบีอาร์ทีในการเข้าเทียบชานชาลา ซึ่งจากนี้ไป กทม.จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับเลนบีอาร์ทีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะประสานงานกับตำรวจอย่างใกล้ชิด" นายอมร กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงวันที่ 30-31 พ.ค.53 มีประชาชนมาทดลองใช้บริการรถบีอาร์ทีประมาณ 1 หมื่นคนต่อวัน จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 3 หมื่นคนต่อวัน ส่วนการเดินรถในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเวลา 06.00-09.00 น. และ 16.00-20.00 น.จะปล่อยรถจำนวน 20 คัน โดยมีความถี่ในการปล่อยรถทุก 5 นาที ส่วนช่วงเวลา 09.30-16.00 น.จะปล่อยรถจำนวน 10 คัน ความถี่ในการปล่อยรถทุก 10 นาที