นักวิเคราะห์คาดฤดูเฮอริเคนอาจกระทบการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกของบีพี

นักวิเคราะห์จากซีเค คูเปอร์ แอนด์ โค ในเมืองดัลลัส คาดว่าพายุเฮอริเคนในอ่าวเม็กซิโกจะเป็นอุปสรรคต่อบริษัท บีพี พีแอลซี ในการหยุดการรั่วไหลของน้ำมัน และอาจทำให้เรือดักจับน้ำมันบนผิวน้ำต้องไปหลบพายุที่ท่าเรือนานกว่าสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้บีพีเสียเวลาแก้ปัญหาน้ำมันรั่วไปประมาณ 7-10 วัน

สำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติของสหรัฐ (NOAA) เปิดเผยว่า ฤดูเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกซึ่งกินระยะเวลา 6 เดือนเริ่มขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีพายุราว 14-23 ลูกมีแนวโน้มทวีความรุนแรงจนกลายเป็นเฮอริเคน นอกจากนี้ NOAA พยากรณืว่า ฤดูพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกปี 2553 อาจมีพายุเฮอริเคนก่อตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งเป็นปีที่พายุเฮอริเคนแคทรินา และริต้า กระหน่ำชายฝั่งสหรัฐจนส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการผลิตน้ำมัน

โรเบิร์ต แมคเคนไซ นักวิเคราะห์จากเอฟบีอาร์ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย กล่าวว่า โดยปกติแล้วบริษัทพลังงานต้องอพยพบุคลากรที่ไม่จำเป็นออกจากพื้นที่หลายวันก่อนที่พายุจะมาถึง แต่ในกรณีนี้บีพีอาจให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่จะจ้างเฮลิคอปเตอร์มารับออกจากพื้นที่

อย่างไรก็ตาม นาวิกโยธินผู้ดูแลชายฝั่งแนะนำว่า ทุกฝ่ายควรยอมรับความจริงว่าฤดูเฮอริเคนเริ่มมาเยือนแล้ว ดังนั้นควรมีการอพยพบุคลากรออกจากพื้นที่เสี่ยงและปล่อยให้น้ำมันรั่วไหลต่อไปจนกว่าจะสามารถกลับไปทำงานได้

ทั้งนี้ บีพีกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักหลังจากเกิดเหตุระเบิดขึ้นที่แท่นขุดเจาะ Deepwater Horizon ของบริษัทเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น ทำให้เกิดรูรั่วปล่อยน้ำมันไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโกหลายล้านแกลลอน ปนเปื้อนตามแนวชายฝั่งทะเลความยาวอย่างน้อย 113 กิโลเมตร ซึ่งแม้ว่าบีพีได้พยายามหยุดการรั่วไหลของน้ำมันด้วยวิธี "top kill" หรือการอัดโคลนหนักลงไปในบ่อน้ำมันเพื่อป้องกันการรั่วไหล แต่ความพยายามดังกล่าวกลับล้มเหลว และล่าสุดบีพีเริ่มใช้วิธีการส่งหุ่นยนต์ใต้น้ำลงไปซ่อมแซมท่อน้ำมันที่รั่วไหล

เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกครั้งนี้ ส่งผลให้ทางการสหรัฐตัดสินใจดำเนินการสอบสวนทั้งในทางแพ่งและอาญา โดยนายเอริค โฮลเดอร์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการดำเนินการทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด และหากพบหลักฐานว่ามีพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลก็จะดำเนินคดีขั้นสูงสุด