นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างมื้ออาหารกลางวันร่วมกับผู้นำในประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ว่า เป็นการมาแสดงความมั่นใจในอนุภูมิภาคนี้ โดยยืนยันว่าความร่วมมือของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงเป็นโอกาสทางธุรกิจ เพราะเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตสูงและขณะนี้พยายามทำโครงสร้างพื้นฐานมารองรับ ให้เกิดพื้นที่การเติบโตทางเศรษฐกิจ และระมัดระวังความยั่งยืนในการใช้ทรัพยากร ซึ่งในประเทศไทยได้ดำเนินตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งโดยด้านรถไฟ จะมีการเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกันทรัพยากรน้ำ ได้รับความร่วมมือจากจีนและพม่าในการแจ้งปริมาณน้ำที่มีในแต่ละจุดของแม่น้ำโขง พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถึงความร่วมมือในเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งกรณีของกัมพูชาและเวียดนาม ขณะเดียวกันได้ขอบคุณ นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ที่ได้แถลงการณ์แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนและไทย พร้อมสนับสนุนกระบวนการแก้ไขปัญหาให้เดินหน้าต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการสนทนากับ ศาสตราจารย์ ดอกเตอร์ เคล้าส์ ชว็อบ ผู้อำนวยการบริหารเวิลด์เอคโคโนมิค ฟอรั่ม ในหัวข้ออนาคตของประเทศไทยหลังผ่านวิกฤตทางการเมือง โดยเน้นย้ำว่าได้นำประเทศกลับเข้าสู่การมีเสถียรภาพและมุ่งหน้าแผนปรองดอง การบังคับใช้กฎหมาย และจะเร่งฟื้นฟูผลกระทบโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด และมีการเตรียมมาตรการต่างๆ ออกมารองรับ นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้พบผู้นำในหลายประเทศ ซึ่งทุกประเทศก็ได้แสดงความยินดีที่ประเทศไทยผ่านพ้นสถานการณ์การชุมนุมและต้องการให้เกิดเสถียรภาพในไทยโดยเร็ว