นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบรายงานการช่วยเหลือผู้ประกอบการและลูกจ้างในพื้นที่สยามสแควร์ที่ก่อนหน้าได้อนุมัติงบฉุกเฉิน 88 ล้านบาทให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้เป็นค่าใช้จ่ายปรับปรุงพื้นที่
ล่าสุด จุฬาฯ ได้ตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ โดยแบ่งเป็นการช่วยเหลือ 2 ส่วน คือ 1.การช่วยเหลือผู้ได้รับผู้ประกอบการร้านค้าที่ไม่ถูกไฟไหม้ จุฬาฯ จะไม่เรียกเก็บค่าเช่า 1 เดือน คิดเป็นมูลค่า 65 ล้านบาท รวมทั้งผ่อนผันการชำระค่าเช่าของเดือนเม.ย. ออกไปเป็นเดือน มิ.ย. โดยไม่คิดดอกเบี้ย
2.การช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าที่ถูกไฟไหม้ จุฬาฯ จะไม่เรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่ 6 เดือน คิดเป็นมูลค่า 69.4 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นพื้นที่ให้ขายของในอาคารกึ่งถาวรของจุฬาฯ ที่จัดสร้างใหม่
ทั้งนี้ รวมเป็นความช่วยเหลือจากจุฬาฯ ทั้งสิ้น 135 ล้านบาท โดยในวงเงินส่วนเกินที่จุฬาฯ ต้องจ่ายให้นอกเหนือจาก 88 ล้านบาทที่ได้รับการอนุมัติมาก่อนหน้านั้น จุฬาฯ แจ้งว่ายินดีจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง
สำหรับความช่วยเหลือเรื่องค่าเช่าแก่ผู้ประกอบการพื้นที่ราชประสงค์เป็นเวลา 1 เดือน จากเดิมที่เคยอนุมัติวงเงินช่วยเหลือไว้ที่ 441 ล้านบาทนั้น ล่าสุดกระทรวงการคลังสามารถเจรจาลดค่าเช่าลงได้ 30% จึงทำให้ใช้งบประมาณช่วยเหลือดังกล่าวเพียง 311 ล้านบาท
ส่วนการช่วยเหลือค่าจ้าง 6 เดือนให้กับลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็นลูกจ้างในระบบประกันสังคม 2,242 ราย ที่รัฐจ่ายให้คนละ 7,500 บาท/เดือนนาน 6 เดือนนั้น จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 24 ล้านบาท ส่วนลูกจ้างนอกระบบประกันสังคม 1,325 คน ที่รัฐจะจ่ายให้คนละ 7,500 บาท/เดือน ตามระยะเวลาจริงที่ตกงานแต่ไม่เกิน 6 เดือนนั้น ต้องใช้งบประมาณ 9.9 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 34 ล้านบาท
ขณะที่การช่วยเหลือผู้ประกอบการในศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วันย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมินั้น เบื้องต้นจะให้ย้ายร้านค้าไปอยู่ชั่วคราวที่ศูนย์การค้าแฟชั่นมอลล์ แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารทิสโก้ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เพื่อจะขอให้ยกเว้นค่าเช่านาน 6 เดือน จากเดิมที่จะยกเว้นให้เพียง 3 เดือน กรณีนี้หากไม่สามารถเจรจากับทิสโก้ได้ รัฐบาลจะเข้าไปรับภาระในส่วนของค่าเช่า 3 เดือนที่เหลือรวมเป็นเงิน 7.5 ล้านบาท