บริษัท บีพี ออกแถลงการณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในวันนี้ หลังจากราคาหุ้นบีพีที่มีการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนักและได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ปิดลบเมื่อคืนนี้ด้วย โดยบีพียืนยันว่า ทางบริษัทไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดนักลงทุนจึงกระหน่ำขายหุ้นบีพีอย่างหนัก
แถลงการณ์ของบีพีมีขึ้นก่อนที่ตลาดหุ้นลอนดอนจะเปิดทำการในวันนี้ โดยบีพีย้ำว่า สถานะการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง นอกจากนี้ บีพียังมีความสามารถและมีความยืดหยุ่นในการรับมือกับต้นทุนที่ต้องใช้จ่ายในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก
"บีพีได้ทราบว่าราคาหุ้นบีพีในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปีเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์น้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกอาจทำให้ทางบริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผวน อีกทั้งยังมีกระแสคาดการณ์แพร่สะพัดว่าบริษัทไม่สามารถรับมือกับหายนะในครั้งนี้ได้ แต่บีพีขอยืนยันว่า สถานะของบีพียังแข็งแกร่งและสามารถเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และภายใต้แรงกดดันด้านรายจ่ายที่ต้องทุ่มไปกับการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วนี้ บีพีก็ยังมีกระแสเงินทุนหมุนเวียนที่แข็งแกร่งด้วย" บีพีกล่าวในแถลงการณ์
บีพียังสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วยว่า เงินสดหมุนเวียนทั้งขาเข้าและขาออกของบริษัท มีความสมดุล นอกจากนี้ สินทรัพย์ของบีพียังคงมีมูลค่าที่ดีและน่าดึงดูด และบริษัทมีแหล่งสำรองน้ำมันดิบกว่า 18 ล้านบาร์เรล และ 6.3 หมื่นล้านบาร์เรลที่บีพีค้นพบในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2552
นอกจากนี้ บีพียืนยันว่า ทางบริษัทจะอัพเดทความคืบหน้าในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วให้กับนักลงทุนทราบทุกระยะ โดยผ่านการออกแถลงการณ์ตามปกติ
ราคาหุ้นบีพีร่วงลง 15.8% ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ซึ่งฉุดหุ้นพลังงานตัวอื่นๆในตลาดดิ่งลงด้วย เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการและการสู้คดีในชั้นศาลของบีพี ขณะที่นายโทนี่ เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพีเปิดเผยว่า ต้นทุนการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกจนถึงขณะนี้พุ่งขึ้นเป็น 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งยังไม่รวมเงิน 360 ล้านดอลลาร์ที่ต้องจ่ายในโครงการสร้างสันทราย (sand berm) จำนวน 6 แห่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันไหลเข้าสู่พื้นที่ชุ่มน้ำในรัฐหลุยเซียนา