นายเดวิด แอ็กเซลร็อด เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต้องการให้บริษัทบีพี พีแอลซี จัดตั้งบัญชี Escrow Account (บัญชีค้ำประกันการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินโดยให้คนกลางที่มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือเข้ามาทำหน้าที่ดูแลการชำระหนี้ของคู่สัญญาให้เป็นไปตามที่ตกลงไว้) เพื่อเป็นบัญชีใช้จ่ายในการชดเชยความเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก ขณะที่หน่วยยามฝั่งของสหรัฐต้องการให้บีพีเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการรั่วไหลของน้ำมัน
"เราต้องการให้บีพีสร้างความเชื่อมั่นว่า เงินในบัญชี Escrow Account จะถูกนำไปใช้ในการชดเชยความเสียหาย และการดำเนินการในบัญชีนี้ควรจะดำเนินการอย่างอิสระ และไม่ล่าช้า" นายแอ็กเซลร็อดกล่าว
ขณะที่หน่วยยามฝั่งของสหรัฐประกาศให้เวลาบีพีจนถึงวันพรุ่งนี้ ในการปรับปรุงแผนการควบคุมน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก เพราะความพยายามของบีพียังไม่มากพอที่จะควบคุมการรั่วไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำเนียบขาวระบุว่า เหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโกนับตั้งแต่ที่แท่นขุดเจาะ Deepwater Horizon ของบีพีระเบิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. และจมลงนอกชายฝั่งของรัฐหลุยเซียนา จนส่งผลให้มีคนงานเสียชีวิต 11 รายนั้น ถือเป็นหายนะด้านสิ่งแวดล้อมที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ขณะที่นักวิจัยจากหน่วยงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ กล่าวว่า ปริมาณน้ำมันที่รั่วไหลลงสู่อ่าวเม็กซิโกอยู่ที่ระดับ 20,000 - 40,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ถึงสองเท่า
ด้านนางเชียลา วิลเลียมส์ โฆษกบีพีกล่าวว่า "คณะกรรมการบริหารของบีพีกำลังพิจารณาทางเลือกใหม่ๆในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่ว แต่คาดว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจใดๆในสัปดาห์นี้"
นายเบน ลาโบลท์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า โอบามาเตรียมออกแถลงการณ์ทั่วประเทศในช่วงเย็นวันอังคารที่ 15 มิ.ย.นี้ หลังจากเดินทางไปตรวจราชการที่มิสซิสซิปปีและฟลอริด้าเป็นเวลา 2 วัน นอกจากนี้ โอบามามีกำหนดจะประชุมร่วมกับนายคาร์ค-เฮนริก สเว็นเบิร์ก ประธานบีพี ที่ทำเนียบขาวในวันที่ 16 มิ.ย. โดยคาดว่าจะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆของบีพีเข้าร่วมประชุมด้วย รวมถึงนายโทนี เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพี