นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติตามการเสนอของคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในเรื่องการจำหน่ายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 51/52
โดยมีมติอนุมัติให้ขายมันเส้นให้แก่ผู้เสนอซื้อเพื่อการใช้ในประเทศ 3 ราย คิดเป็นปริมาณรวมทั้งสิ้น 250,251 ตัน โดยมีการเสนอราคาสูงสุดระหว่าง 5,264-5,862 บาท/ตัน หรือเฉลี่ยที่ 5,650.08 บาท/ตัน คิดเป็นมูลค่ารวม 1,413 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมครม.ยังมีมติอนุมัติให้ดำเนินมาตรการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 53/54 โดยวิธีการประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งมีหลักเกณฑ์ วิธีการดำเนินโครงการประกันรายได้ และงบประมาณดำเนินการตามที่คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังเสนอ ซึ่งคาดว่าต้องใช้งบประมาณดำเนินการรวม 2,927 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการตั้งแต่ พ.ค.53-ก.ค.54 สำหรับหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินโครงการนั้น ได้ระบุพื้นที่ดำเนินการในจังหวัดที่เป็นแหล่งผลิตมันสำปะหลังปี 53/54 ทั่วประเทศที่มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังปี 53/54 ไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปริมาณเป้าหมาย ให้เกษตรกรรายครัวเรือนใช้สิทธิขอรับเงินส่วนต่างระหว่างราคาประกันกับเกณฑ์กลางอ้างอิงตามปริมาณที่ผลิตได้จริงแต่ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน โดยคำนวณจากพื้นที่ปลูกของเกษตรกรประมาณ 20-25 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 4-5 ตัน และต้องเป็นผลผลิตที่เกษตรกรแจ้งขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยใช้เกณฑ์ผลผลิตเฉลี่ยรายจังหวัดเป็นข้อมูลในการคำนวณปริมาณผลผลิตที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ ราคาประกัน กำหนดราคาประกันหัวมันสดเชื้อแป้ง 25% กก.ละ 1.90 บาท โดยใช้เกณฑ์ต้นทุนการผลิตเฉลี่ยทั้งประเทศที่ กก.ละ 1.36 บาท บวกค่าขนส่ง กก.ละ 0.15 บาท และผลตอบแทนแก่เกษตรกร 25% หรือกก.ละ 0.38 บาท การกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิง คณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงมันสำปะหลังเป็นผู้กำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงที่ใช้เป็น เกณฑ์ในการพิจารณาจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาระหว่างราคาประกันกับเกณฑ์กลางอ้างอิงให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงเท่ากันทุกจังหวัดแหล่งผลิต ระยะเวลาดำเนินการ แบ่งเป็น 1.การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ตั้งแต่ 1 มิ.ย.-31 ต.ค.53 2.การออกหนังสือรับรองเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตรออกหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่ผ่านการทำประชาคมแล้ว ตั้งแต่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.53 3.การทำสัญญาประกันรายได้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ทำสัญญากับเกษตรกรตั้งแต่ 1 ก.ค.53-15 ม.ค.54 โดยเกษตรกรสามารถระบุวันใช้สิทธิในวันที่ทำสัญญาได้ 4.ระยะเวลาใช้สิทธิประกัน เกษตรกรเลือกใช้สิทธิประกันได้ทันทีตั้งแต่วันที่เก็บเกี่ยวที่ระบุในหนังสือรับรองแต่ไม่ก่อน 1 ต.ค.53 โดยให้เกษตรเลือกใช้สิทธิด้วยตนเองและเปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงวันใช้สิทธิได้ แต่ต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันทำการก่อนถึงวันใช้สิทธิที่กำหนดไว้เดิม และต้องไม่เกินวันที่ 31 พ.ค.54 ทั้งนี้คณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์ราคาอ้างอิงฯ จะเป็นผู้กำหนดราคาอ้างอิงดังกล่าว และประกาศทุก 15 วัน เริ่มครั้งแรก 1 ต.ค.53-31 พ.ค.54