ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทบีพี พีแอลซี ได้ตกลงจัดสรรเงินมูลค่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุนบัญชี escrow account หรือ บัญชีค้ำประกันการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินโดยให้คนกลางที่มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือเข้ามาทำหน้าที่ดูแลการชำระหนี้ของคู่สัญญาให้เป็นไปตามที่ตกลงไว้ เพื่อเป็นทุนในการชดเชยความเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก โดยข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นภายหลังจากโอบามาเสร็จสิ้นการประชุมร่วมกับผู้บริหารของบีพีที่ทำเนียบขาว
ในระหว่างการประชุมร่วมกับโอบามา และนายโจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐที่ทำเนียบขาวนั้น นายคาร์ล-เฮนริก สแวนเบิร์ก ประธานบีพี ได้ตกลงจัดสรรเงินมูลค่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุนบัญชี escrow account และยังได้จัดตั้งกองทุนชดเชยอีกก้อนหนึ่ง มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือพนักงานในอุตสาหกรรมน้ำมันที่ต้องตกงานอันเนื่องมาจากแท่นขุดเจาะ Deepwater Horizon ระเบิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา จนลุกลามกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่สุดในอุตสาหกรรมน้ำมัน
นอกจากนี้ นายสเวนเบิร์ก ประธานบีพี ยังประกาศยกเลิกการจ่ายเงินปันผลรายไตรมาส มูลค่ารวม 2.6 พันล้านดอลลาร์สำหรับงวดที่มีกำหนดจ่ายในวันที่ 21 มิ.ย. ขณะเดียวกันบีพียังประกาศขายทรัพย์สินและลดอัตราการลง เป็นมูลค่ารวม 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อเป็นทุนในการสนับสนุนกองทุนชดเชยความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นายสเวนเบิร์กได้กล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าจะไม่ละความพยายามในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่ว
โอบามากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "การประชุมกับผู้บริหารบีพีถือเป็นการประชุมที่สร้างสรร บีพีมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก และมีความรับผิดชอบที่จะจัดสรรเงินจำนวนมากเข้าสู่กองทุนชดเชยความเสียหาย"
หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐได้มอบหมายให้นายเคนเนธ ไฟน์เบิร์ก ซึ่งเคยทำหน้าที่ดูแลการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ประสบเหตุวินาศกรรม 9/11 เป็นผู้บริหารจัดการกองทุนชดเชยความเสียหายของบีพี โดยข้อตกลงในเบื้องต้นนั้น รัฐบาลสหรัฐจะให้เวลากับบีพีหลายปีในการโอนเงินเต็มจำนวนเข้าสู่กองทุน เพื่อช่วยให้บีพีมีเงินทุนหมุนเวียนได้เพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้นักลงทุนวิตกกังวลต่อสภาพคล่องของบีพีด้วย
นายสตีเฟ่น ชู รมว.พลังงานสหรัฐ คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำมันจากบ่อของบริษัทบีพีที่รั่วลงสู่อ่าวเม็กซิโกในขณะนี้ มีมากถึง 60,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทางการสหรัฐปรับเพิ่มคาดการณ์การรั่วไหวของน้ำมัน นับตั้งแต่เริ่มต้นการประเมินปริมาณน้ำมันรั่วไหลในเดือนเม.ย.ที่ 1,000 บาร์เรล/วัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน